สำนักข่าว Reuters รายงานว่า กลุ่มนักลงทุน 6 ราย ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกัน 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึง Fidelity International ระบุว่า มีเป้าหมายจะเพิ่มการมีส่วนร่วมในบริษัทใหญ่ๆ ของเอเชีย เช่น ธนาคาร และผู้ผลิตพลังงาน โดยต้องการแน่ใจว่าพวกเขามีแผนงานเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ
Asia Research & Engagement (ARE) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในสิงคโปร์ของกลุ่มนักลงทุน กล่าวว่า การเข้าไปมีส่วนร่วมในช่วงแรกจะมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงด้านคาร์บอน และถ่านหิน ในกลุ่มธนาคารและบริษัทพลังงานถ่านหิน
ความเคลื่อนไหวนี้มาในช่วงที่นักลงทุนมีบทบาทมากขึ้นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยการช่วยทำให้บริษัทกำหนดคำมั่นสัญญาว่าจะบริหารจัดการความเสี่ยงให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งขั้นตอนเกี่ยวกับ ESG ที่พวกเขาดำเนินการ ได้แก่ การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น การลงคะแนนเสียงในคณะกรรมการและค่าตอบแทน
กลุ่มนักลงทุน 6 ราย ประกอบด้วย 1.BMO Global Asset Management EMEA 2.Fidelity International 3.Dutch pension fund PGGM 4.Pension Fund Forum (LAPFF) ซึ่งเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญในอังกฤษ 5.Aviva Investors 6.Legal & General Investment Management
Mirza Baig หัวหน้าการลงทุน ESG ทั่วโลก Aviva Investors กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเราเห็นการสนับสนุนการพัฒนาความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจและนโยบาย เช่น การประกาศเป้าหมายสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ แต่ในความเป็นจริงก็ยังพบว่า ยังมีการดำเนินงานที่ไม่ตรงกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ ดังนั้นจึงมีโอกาสมากมายสำหรับบริษัทในเอเชียที่จะเป็นผู้นำการแก้ปัญหาฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ