เทรนด์พลังงานสะอาดลงทุนยาวได้ไหม

เทรนด์พลังงานสะอาดลงทุนยาวได้ไหม

สรุปความสัมภาษณ์

เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

ปัญหาของสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากปัญหานี้นำไปสู่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชีวิตของมนุษย์เรา โดยเฉพาะผลกระทบค่อนข้างมากที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (climate change) ซึ่งเรื่องนี้เองทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจกับเทรนด์พลังงานสะอาดกันมากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมได้

ทั้งนี้ พลังงานสะอาดถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น แน่นอนว่าทุกคนบนโลกไม่มีใครอยากจะอยู่ท่ามกลางอากาศที่มีแต่มลพิษ เราทุกคนล้วนต้องการอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์อยู่แล้ว ดังนั้นหากให้ความร่วมมือใช้พลังงานสะอาด เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ได้ โดยที่ไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายในชีวิตมากเกินไป ก็เชื่อว่าทุกคนพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว

ที่ผ่านมาการใช้พลังงานสะอาดยังมีอุปสรรคเรื่องต้นทุนอยู่ ทำให้หลายคนลำบากใจที่จะเข้าไปร่วมสนับสนุน แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่างๆ เกิดขึ้น ช่วยผลักดันให้ต้นทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดถูกลง ขณะที่กระบวนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดก็ไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยาก ทำให้ได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์

พลังงานเหล่านี้ เป็นพลังงานที่เราได้มาแบบฟรีๆ จากสิ่งแวดล้อม เพียงแต่จำเป็นต้องอาศัยกระบวนการจัดเก็บ กระบวนการผลิต หรือว่าการแปรรูปออกมาเป็นพลังงานเพื่อใช้ ซึ่งเดิมทีกระบวนการเหล่านี้เคยมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับพลังงานฟอสซิล ซึ่งเป็นพลังงานที่มีมลพิษ แต่ปัจจุบันต้นทุนในพลังงานเหล่านี้ลดลงไปมาก โดยลดลงถึง 50-70% เลย และในอนาคตก็มีโอกาสจะปรับลดลงไปได้อีก เนื่องจากมีกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเป็นผู้นำของการใช้พลังงานสะอาดเพื่อผลักดันให้โลกมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยจะพบว่าปี 2020 ที่ผ่านมา ในประเทศพัฒนาแล้ว พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์มีต้นทุนที่ถูกกว่าการใช้พลังงานจากถ่านหินแล้ว

เมื่อพลังงานสะอาดเป็นเทรนด์ที่โลกให้ความสนใจ ก็ทำให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ มีนโยบายออกมาสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นรูปธรรมชัดเจน อย่างเช่น สหรัฐฯ ในยุคประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้กลับไปลงนามในสนธิสัญญาปารีส หรือ Paris Agreement ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม การดูแลรักษาโลก

นอกจากนี้ประธานาธิบดีไบเดนยังมีแผนใช้จ่ายงบประมาณที่กระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาโลกด้วย โดยเฉพาะแผนการใช้พลังงานสะอาด

หากไปดูทางฝั่งยุโรป ก็พบว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีความชัดเจนมากที่สุด มีความก้าวหน้าที่สุดในกระบวนการที่จะดูแลรักษาโลกใบนี้ โดยยุโรปมี EU Green deal เป็นสนธิสัญญาที่บอกว่าจะสนับสนุนกิจการที่จะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Climate Change ด้วยเม็ดเงินถึง 3 แสนล้านยูโร ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้ ยุโรปเติบโต และเป็นผู้นำในเรื่องนี้ได้ในระยะยาว

สำหรับ EU Green deal มีระยะเวลาตั้งแต่ปี 2021-2027 ถือเป็นระยะเวลายาวนาน แสดงถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจของกลุ่มประเทศยุโรปที่จะผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง

และหากหันกลับมาดูฝั่งบ้านเรา พบว่าจีนเองก็เพิ่งออกมาตรการควบคุมการใช้ไฟฟ้า เพราะว่าจีนก็สนับสนุนเรื่องการใช้พลังงานสะอาด ร่วมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ซึ่งประเทศจีนมีขนาดใหญ่ เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง เมื่อจีนร่วมวงกับเรื่องนี้ด้วย โดยที่จีนสามารถดำเนินการควบคุมหรือดูแลได้แบบทันที เพราะรัฐบาลออกกฎสั่งการได้ ดังนั้นก็จะเห็นความจริงจังในเรื่องนี้ชัดเจนขึ้น นี่ยังไม่นับประเทศอย่างญี่ปุ่นหรือว่าเกาหลี ซึ่งเรื่องสิ่งแวดล้อม ถูกปลูกฝังอยู่ในวินัยของคนอยู่แล้ว

เมื่อประเทศทั่วโลกให้ความสนใจเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาด มีการออกนโยบายมาสนับสนุนในระดับประเทศ นักลงทุนจึงให้ความสนใจกับเทรนด์นี้เช่นกัน โดยจะพบว่า นักลงทุนสถาบัน ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องการลงทุนระยะยาว ให้ความสนใจลงทุนในกิจการที่สอดคล้องหรือว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของความยั่งยืน เพราะมองว่าเป็นกิจการที่เต็มไปด้วยความต้องการของผู้คน

มีการคาดหมายไว้ว่าในปี 2030 จะเป็นปีที่ต้นทุนเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม จะเป็นแหล่งพลังงานมีราคาถูกที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเช่นนั้น ขณะที่ประเทศใหญ่ๆ ทางฝั่งตะวันออกอย่างจีน ก็คงสามารถเดินตามรอยประเทศพัฒนาแล้ว มีการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อทำให้พลังงานสะอาดเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันได้ไม่ยาก

โดยรวมแล้วการดูแลรักษาโลก เป็นเทรนด์ที่ไม่ใช่แค่กระแสแฟชั่น ที่มาเพียงครู่เดียวแล้วหายไป แต่เป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้นนักลงทุนที่เห็นประโยชน์จากเทรนด์นี้ และมองเห็นแล้วว่าเป็นเทรนด์ระยะยาว ก็จะสนใจเข้าไปลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่า ถ้าไปดูข้อมูลของกองทุนยั่งยืนทั่วโลกที่ลงทุนเกี่ยวกับกิจการดูแลรักษาโลก จะพบว่า ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินจำนวนมากลงทุนด้านนี้ ซึ่งก็ทำให้ภาพรวมของการลงทุนหรือว่ากิจการต่างๆ เหล่านี้ได้รับความสนใจมากขึ้น