Economic Update
สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
- รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศรายการสินค้านำเข้าจากจีน 1,300 รายการที่จะถูกเก็บภาษีนำเข้า 25%
- รายการสินค้า ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอากาศยาน ดาวเทียม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร ยานยนต์ และสินค้าอื่นๆ ที่ยังไม่ได้สรุปออกมา
- การเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าทั้ง 1,300 รายการดังกล่าวนี้ ยังไม่เริ่มมีผลบังคับใช้ทันที โดยจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ (Public hearing) รับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจของสหรัฐฯ ในวันที่ 15 พ.ค. ที่กำลังจะถึงนี้ก่อน
- สินค้านำเข้าจากจีน อาทิ มือถือ Iphone แล็ปท็อป Dell และเสื้อผ้ารองเท้า ไม่ได้รวมอยู่ใน 1,300 รายการนี้ ซึ่งช่วยลดความกังวลของภาคค้าปลีกในสหรัฐฯ ต่อต้นทุนการนำเข้าสินค้าที่สูงขึ้น
- มากกว่า 200 รายการ ใน 1,300 รายการ สหรัฐฯไม่ได้มีการนำเข้าในปีที่ผ่านมา
- USTR ของสหรัฐฯ เลือกรายการทั้ง 1,300 รายการนี้ จากการใช้ Computer algorithm ในการเลือกสินค้าที่ผู้ส่งออกจีนได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ได้รับผลน้อยที่สุด
- เกษตรกรสหรัฐฯ เป็นกลุ่มที่ความอ่อนไหวต่อ Trade war ระหว่างจีน และสหรัฐฯมากที่สุด เนื่องจากต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
- ด้านจีนออกมาตอบโต้ระบุว่า การกระทำดังกล่าวละเมิดหลักการขององค์การค้าโลก (WTO) และจะตอบโต้กลับสหรัฐฯ อย่างเท่าเทียมตามกฎหมายของจีน หลังจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (3 เม.ย.)จีนประกาศขึ้นกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าของสหรัฐ 128 รายการ เช่น เนื้อหมูและไวน์ เพื่อเป็นการตอบโต้หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากจีนเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และล่าสุด(4 เม.ย.) รัฐบาลจีนเตรียมขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าสหรัฐฯ 106 รายการ เช่น ถั่วเหลือง, เครื่องบิน, รถยนต์, เคมีภัณฑ์, เนื้อวัว, ยาสูบ, เหล้าวิสกี้, ข้าวสาลี, ข้าวโพด, ข้าวฟ่าง และฝ้าย รวมมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในอัตราภาษี 25%
- อย่างไรก็ดี ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีว่าจะมีการพูดคุยเจรจากันระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างกัน ซึ่งช่วยลดความกังวลของนักลงทุนทั่วโลก ส่วนตัวคิดว่าสหรัฐฯไม่คิดว่าจีนจะตีกลับแรง ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้า “ฝ้าย” ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ แต่กลายเป็นว่าจีนเอาคืนด้วยการปรับขึ้นภาษีในกลุ่มเกษตรซึ่งเป็น กลุ่ม “อ่อนไหว” ของสหรัฐฯ Trump จึงส่งสัญญาณอ่อนลงผ่าน Twitter ว่า
- 09/04/2018
- bualuangfund