หุ้นธนาคารเวียดนาม ดาวเด่นในเอเชีย

หุ้นธนาคารเวียดนาม ดาวเด่นในเอเชีย

โดย…เจฟ  สุธีโสภณ CFA®

กองทุนบัวหลวง

หุ้นในกลุ่มธนาคารของประเทศเวียดนามเป็นหุ้นที่เติบโตโดดเด่นที่สุดในบรรดาธนาคารต่างๆ ในเอเชียดังจะเห็นได้จากราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2020 และ 26% ในปี 2021 (ถ้าไม่รวมธนาคารรัฐวิสาหกิจแล้วคำนวณแค่ธนาคารเอกชนจะเพิ่มขึ้น 43% ในปี 2020 และ 60% ในปี 2021) สะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามที่แข็งแกร่ง ซึ่งภาคธนาคารเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ สาเหตุที่ราคาธนาคารรัฐวิสาหกิจปรับตัวขึ้นน้อยกว่าธนาคารเอกชน เนื่องจากในช่วงวิกฤตโควิดธนาคารของภาครัฐต้องให้ความร่วมมือกับธนาคารกลาง State Bank of Vietnam มากเป็นพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้กู้ที่ได้รับผลกระทบ อาทิเช่น การช่วยลดดอกเบี้ยและการปรับโครงสร้างหนี้

เราคาดว่าหุ้นธนาคารเวียดนามจะยังสามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย เมื่อพิจารณาถึงอัตราผลตอบแทนหุ้นธนาคารเวียดนามเป็นหุ้นที่ให้ Return On Equity (ROE) สูงถึง 20% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในภูมิภาค สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเกินกว่าสองเท่าและสูงกว่าหุ้นธนาคารไทยถึงเกือบ 3 เท่า ซึ่งมี 3 ปัจจัยหลักในการผลักดันนั้นคือ 1.การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของการปล่อยสินเชื่อ 2.ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 3.รายได้ค่าธรรมเนียมที่โตก้าวกระโดด

เราคาดว่าสินเชื่อของธนาคารเวียดนามจะเติบโตสูงในอัตรา 13-14% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าตามการเติบโตของเศรษฐกิจที่จะกลับมาอย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤตโควิด ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมาประเทศเวียดนามเป็นเพียงประเทศเดียวที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ที่ 3% ในขณะที่เศรษฐกิจของภูมิภาคหดตัวลง เรามองว่าแนวโน้มการเติบโตด้านโครงสร้างจะยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากการเติบโตที่สูงของรายได้ประชากรต่อหัวและการเข้าถึงสินเชื่อที่ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ทั้งนี้ความแตกต่างในระบบการเงินที่เวียดนามคือการที่มีธนาคารกลางกำหนดโควตาของการปล่อยสินเชื่อของแต่ละธนาคาร ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ช่วยควบคุมไม่ให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตร้อนแรงจนเกินไปดังที่เคยเกิดขึ้นในวิกฤตการเงินในอดีต

ธนาคารเวียดนามมีส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ที่สูงเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคที่ 4.5% รองจากอินโดนีเซียที่ 4.9% ซึ่งธนาคารเวียดนามเป็นธนาคารในไม่กี่ประเทศในภูมิภาคที่สามารถเห็น Net Interest Margin ขยายตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสวนทางกับธนาคารของประเทศอื่นที่ต้องเจอแรงกดดันจากดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าธนาคารกลางของเวียดนามได้มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่เนื่องจากความต้องการสินเชื่อที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจึงทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลงช้ากว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก การขยายตัวของ Net Interest Margin นั้นยังมีสาเหตุมาจากการที่ธนาคารหันมาเน้นการปล่อยสินเชื่อรายย่อยและ SME มากขึ้นซึ่งให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่

b.jpg

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธนาคารเวียดนามเติบโตอย่างโดดเด่นคือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของรายได้ค่าธรรมเนียมตามการเข้าถึงระบบธนาคารที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตของตลาดทุน รายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรม การขายประกัน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินล้วนโตได้ดี สัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารเวียดนามต่อสินทรัพย์อยู่ที่ 0.4% ในปี 2019 ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 0.7% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารเวียดนามในอนาคต

ถึงแม้ว่าราคาหุ้นธนาคารเวียดนามได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วอย่างโดดเด่น แต่ยังคงมีความน่าสนใจมากกว่าธนาคารในภูมิภาคเมื่อพิจารณาถึง Valuation  ประกอบกับความสามารถในการทำกำไร (Return On Equity) เราเชื่อว่าศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามและเงินลงทุนจากต่างประเทศจะเป็นแรงผลักดันให้กับหุ้นธนาคารเวียดนาม ปัจจุบันนี้สถานะของตลาดเวียดนามยังเป็น Frontier Market และมีโอกาสได้ปรับขึ้นเป็น Emerging Market และเมื่อนั้นจะมีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าตลาด และกลุ่มธนาคารซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดในตลาดก็จะได้ประโยชน์ และเราเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นธนาคารเวียดนามจะยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นเสมือนกระจกสะท้อนแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามที่แข็งแกร่ง

​​​​​​​