เศรษฐกิจสิงคโปร์โต 4.3% YoY ในไตรมาสแรก ธนาคารกลางรัดกุมนโยบายการเงิน

เศรษฐกิจสิงคโปร์โต 4.3% YoY ในไตรมาสแรก ธนาคารกลางรัดกุมนโยบายการเงิน

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) เผยเบื้องต้น (Advance Estimate) ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์ช่วงไตรมาสที่ 1/2018 โตถึง 4.3% YoY เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่โตได้ 3.6% YoY และถึงแม้ว่าหากคิดเป็นรายไตรมาสแล้ว GDP ชะลอลงเหลือ 1.4% QoQ saar แต่ก็ยังคงเหนือกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 1.0% QoQ saar พอสมควร

  • เศรษฐกิจสิงคโปร์ถูกขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมอยู่เป็นสำคัญ จากการขยายตัวถึง 10.1% YoY แต่ยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาการส่งออกภาคอิเล็กทรอนิกส์เริ่มแสดงถึงการหดตัว และยังมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน เมื่อนำมาประกอบกันจึงอาจส่งผลเชิงลบต่อแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสถัดๆไป
  • อย่างไรก็ดี ภาคบริการยังเร่งขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญที่ 3.8% YoY ด้วยการกิจกรรมในธุรกิจการเงินและการค้า สะท้อนถึงการเติบโตแบบกระจายตัวมากยิ่งขึ้น ไม่กระจุกตัวอยู่แต่เฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศ
  • ขณะที่ภาคการก่อสร้างฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ยังหดตัว -4.4% YoY จากตัวเลขของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก แต่ในระยะถัดไปน่าจะถูกหนุนโดยการไล่ซื้อพื้นที่เพื่อพัฒนาแบบ En-Bloc และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา

ในวันเดียวกัน ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) มีมติให้รัดกุมนโยบายการเงิน โดยเพิ่มความชันของกรอบอัตราแลกเปลี่ยน (S$NEER) ขึ้น ภายหลังเศรษฐกิจปีที่แล้วฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก และอัตราเงินเฟ้อทรงตัวอยู่สูง

  • MAS ใช้มาตรการอัตราแลกเปลี่ยนควบคุมทิศทางนโยบายการเงิน แทนการใช้อัตราดอกเบี้ยเหมือนกับที่ธนาคารกลางแห่งอื่นๆนิยมใช้กัน โดยจะเปรียบเทียบสิงคโปร์ดอลลาร์กับตะกร้าสกุลเงินคู่ค้าสำคัญๆที่ทาง MAS ไม่ได้เปิดเปิดเผยออกมา
  • เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.5% YoY ในเดือน ก.พ. 2018 ระหว่างที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมหมวดที่อยู่อาศัยและการภาคขนส่งเอกชน) เพิ่มขึ้นเป็น 1.7% YoY สูงที่สุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2017 สืบเนื่องด้วยราคาอาหาร บริการ และภาคค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้นจากเทศกาลตรุษจีนที่เหลื่อมกันกับปี 2017 อย่างไรก๊ดี เงินเฟื้อพื้นฐานในภาพรวมปรับตัวขึ้นมาทรงตัวอยู่สูงกว่าของปี 2015-16 สักพักหนึ่งแล้ว และ MAS คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นช้าๆจนขึ้นไปอยู่ใกล้กรอบบน 2% ของคาดการณ์ในปีนี้ บนพื้นฐานตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง