อัตราเงินเฟ้อทยูโรโซนเดือน มี.ค. อยู่ที่ 1.3%

อัตราเงินเฟ้อทยูโรโซนเดือน มี.ค. อยู่ที่ 1.3%

  • เงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ในยูโรโซนเดือน มี.ค. ปรับตัวขึ้นเป็น 1.3% YoY น้อยกว่าประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 1.4% YoY เนื่องจากราคาสินค้าหมวดอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ที่ไม่นำราคาพลังงาน อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่มาคิดรวม ทรงตัวจากประมาณการที่ 1.0% YoY ในช่วงเดียวกัน
  • อย่างไรก็ตาม หากเจาะลึกลงไปอีก เงินเฟ้อพื้นฐานแบบ Supercore Inflation ที่อิงกับเฉพาะปัจจัยในประเทศเป็นหลักนั้น เพิ่มขึ้นเป็น 1.2% YoY นับเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบ 4 ปี
  • สถิติดังกล่าวจึงเป็นสัญญาณยืนยันว่า เงินเฟ้อได้ค่อยๆปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญตามที่ทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ไว้ และน่าจะเป็นอีกเหตุผลให้ ECB ตัดสินใจยุติโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) ในช่วงปลายปีนี้ โดย Jens Weidmann ประธานธนาคารกลางเยอรมนี เชื่อว่าควรมีการเร่งการหยุดมาตรการ QE เข้ามาใกล้กว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ Peter Praet หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของ ECB เชื่อว่ายังคงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนิน QE ต่อไป เพื่อรักษาสภาวะการเงินผ่อนคลายไว้ก่อนในตอนนี้ เพราะเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอยู่
  • เราคาดว่า ECB จะยุติโครงการ QE ลงภายในปีนี้ ก่อนที่เริ่มจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2019 ดังนั้น ด้วยสภาวะการเงินที่ยังคงผ่อนคลาย ความต้องการสินค้าและบริการในภูมิภาคแข็งแกร่งหลังตลาดแรงงานตึงตัวขึ้น ระหว่างที่การค้าระหว่างประเทศเติบโตได้ดีต่อเนื่อง สนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพิ่มเติม เราจึงปรับประมาณการ GDP เศรษฐกิจยูโรโซน 19 ประเทศขึ้น เป็นการเติบโต 2.4% ในปีนี้ สูงกว่า 2.3% ในปี2017 เล็กน้อย