ยุโรปกำลังเจอความท้าทายจากการขาดแร่ธาตุเพื่อเป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050

ยุโรปกำลังเจอความท้าทายจากการขาดแร่ธาตุเพื่อเป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050

สหภาพยุโรป กำลังได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนลิเธียม ธาตุหายาก และโลหะอื่นๆ ที่มีความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน แต่การรีไซเคิลจะช่วยอุดช่องว่างได้ตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไปเท่านั้น

ประเด็นการขาดแคลนแร่ธาตุที่จำเป็นของสหภาพยุโรปนี้ยิ่งมีความรุนแรงขึ้น หลังจากสหภาพยุโรปพยายามพึ่งพารัสเซียน้อยลงด้านพลังงาน ตามผลการศึกษาของ Eurometaux ที่ได้รับมอบหมายจากกลุ่มอุตสาหกรรม

“การเปลี่ยนผ่านพลังงานโลกกำลังเกิดรวดเร็วขึ้นกว่าโครงการขุดทองแดง โคบอลต์ ลิเธียม นิกเกิล และแร่ธาตุหายาก ซึ่งล้วนทำให้เกิดความเสี่ยงด้านอุปสงค์หยุดชะงักระหว่างนี้ไปจนถึงปี 2035

สหภาพยุโรปวางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหลือศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งจำเป็นต้องใช้โลหะและแร่ธาตุเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและกังหันลม

ผลการศึกษาชี้ว่า สหภาพยุโรปจำเป็นต้องใช้ลิเธียมเพิ่มขึ้น 35 เท่า และแร่ธาตุหายาก 7-26 เท่า ภายในปี 2050 เพื่อใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และมอเตอร์ ซึ่งยุโรปต้องเร่งตัดสินใจเร่งด่วนว่าจะปิดช่องว่างด้านอุปทานนี้ยังไง

ทั้งนี้ จีนและอินโดนีเซียใช้พลังงานถ่านหินในการผลิตโลหะ ซึ่งจะครองการเติบโตของกำลังการผลิตการหลั่นโลหะแบตเตอรี่และแร่ธาตุหายาก ในขณะที่ยุโรปยังพึ่งพาอลูมิเนียม นิกเกิล และทองแดง จากรัสเซียอยู่

การรีไซเคิลจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนได้ แต่ทำได้ตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป เท่านั้น เมื่อมีวัตถุดิบเหลือจากยานพาหนะที่ถูกทิ้งหรืออุปกรณ์อื่น เช่น กังหันลม

ภายในปี 2050 ความต้องการโลหะสำหรับพลังงานสะอาดของยุโรป 40-75% จะมาจากการรีไซเคิล ถ้ายุโรปลงทุนอย่างหนักตั้งแต่ตอนนี้ และแก้ปัญหาคอขวดในภาคอุปทาน

ที่มา : Reuters