เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2022 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง 0.50% ซึ่งเป็นการปรับเชิงรุกมากที่สุดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นไปอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 40 ปี
“เงินเฟ้อสูงมาก และเราเข้าใจความลำบากที่ตามมา เรากำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อทำให้เงินเฟ้อลงมา” Jerome Powell ประธาน Fed กล่าวระหว่างแถลงข่าว
เขา ระบุว่า เขาสังเกตเห็นภาระเงินเฟ้อในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ดังนั้นจึงขอมุ่งมั่นที่จะทำให้ราคากลับมามีเสถียรภาพ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ออกมานี้ ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาด ไม่ได้เป็นไปในเชิงรุกมากกว่านั้น โดยอัตราดอกเบี้ยของ Fed นี้ เป็นอัตราอ้างอิงที่ธนาคารจะใช้เรียกเก็บธนาคารด้วยกันสำหรับการกู้ยืมระยะสั้น แต่ก็มีความเชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับผู้บริโภคซึ่งมีหลากหลายอัตราด้วย
นอกจาก Fed จะขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาดแล้ว ก็ยังระบุว่าจะเริ่มลดการถือครองสินทรัพย์ที่อยู่ในงบดุล 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วย โดยก่อนหน้านี้ Fed ซื้อพันธบัตรเพื่อรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงที่มีการแพร่ระบาด แต่จากราคาที่พุ่งขึ้นก็ทำให้ต้องทบทวนนโยบายการเงินใหม่
ทั้งนี้ แม้ตลาดเตรียมตั้งรับเอาไว้แล้วสำหรับความเคลื่อนไหวของนโยบายการเงินทั้ง 2 ทาง แต่ปีนี้ก็คงจะเป็นปีที่มีความผันผวนตลอดปี
ภายหลังประกาศ อัตราดอกเบี้ย Fed ก็ปรับขึ้นไปอยู่ในระดับ 0.75-1% ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดปัจจุบัน ที่มองไปถึงสิ้นปีนี้ก็เพิ่มเป็น 2.75-3% ตามข้อมูลของ CME Group ขณะที่หุ้นปรับขึ้นหลังประกาศออกมา เนื่องจากผลตอบแทนของพันธบัตรกลับไปอยู่ในระดับสูงสุดก่อนหน้านี้
ในส่วนของตลาด คาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางจะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกต่อเนื่องไปอีกในการประชุมอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมองว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยทีเดียว 0.75% ในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม Powell ระบุว่า จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% เท่านั้น สำหรับการประชุมครั้งถัดไป ขณะที่แนวคิดการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในครั้งเดียวยังไม่อยู่ในการพิจารณาเลยเวลานี้
ที่มา : CNBC