Read between the (Fed’s) line

Read between the (Fed’s) line

Economic Research

Key Event

  • คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 50 bps เข้าสู่กรอบ 0.75-1.00% ซึ่งมีผลให้อัตราดอกเบี้ยสำคัญอื่นๆ เช่น The Interest Rate on Reserve Balance (IORB) ปรับขึ้นในอัตราที่เท่ากันสู่ 0.9%
  • พร้อมกันนี้ FOMC ยังเผยแผนการปรับลดการถือครองสินทรัพย์ อันได้แก่ U.S. Treasury Securities และ MBS ด้วย โดยแผนการลดการถือครองนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย. เป็นต้นไป โดยได้กำหนดอัตราลดการถือครองเป็นสองช่วงดังแสดง

Powell กล่าวอะไรบ้างใน Press Conference

“ภารกิจสำคัญของ Fed ตอนนี้คือการลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อให้เร็วที่สุด โดย Fed อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 50 bps ในการประชุมอีกสองครั้งข้างหน้าคือในเดือน มิ.ย.- ก.ค. และเมื่อแรงกดดันเงินเฟ้อลดต่ำลง ก็อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 25 bps ในการประชุมเดือน ก.ย. เป็นต้นไป โดย ประธาน Fed กล่าวว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงไปจนทำร้ายเศรษฐกิจ”

นัยต่อการลงทุน

เราคิดว่าเรื่อง Fed ขึ้นดอกเบี้ยแรง จะอยู่ในความสนใจของตลาดไปถึงช่วงกลางปี หลังจากนั้นประเด็นสำคัญที่จะต้องจับตาเป็นพิเศษคือ GDP Growth ของสหรัฐฯในไตรมาส 2/2022 ที่จะประกาศในช่วงปลายเดือน ก.ค.ว่าจะเป็นเช่นไร ซึ่งหาก GDP ไตรมาส 2/2022 ของสหรัฐฯออกมาติดลบ ก็จะส่งผลให้ สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิคหรือ Technical Recession (เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัว -1.4% QoQ saar ในไตรมาสแรก)

เมื่อถึงตอนนั้นตลาดจะกลับมาชั่งน้ำหนักถึงความจำเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ และผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นความกังวลที่มีต่อ R-word อาจจะพลิกความคาดหวังของตลาดใหม่เป็นมองว่า Fed จำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในช่วงท้ายปี ก็อาจจะเป็นอานิสงส์ที่ดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและมุมมองจาก Fed อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ Fed มีความ Dynamic เชิงคำพูดค่อนข้างมากและส่งผลต่ออารมณ์ของตลาดมากด้วยเช่นกัน