ในวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา Meta ได้เปิดร้านค้าแห่งแรกของตัวเอง และเป็นศูนย์จัดแสดงอุปกรณ์สวมใส่ศีรษะ ที่ใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง หรือ VR ด้วย เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้ออุปกรณ์สวมศีรษะรุ่น Quest 2 ได้ นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมไว้สำหรับขายอุปกรณ์สวมศีรษะระดับไฮเอนด์ที่จะออกมาปลายปีนี้ด้วย
ขณะที่ผลรายงานวิจัยที่ Piper Sandler เผยแพร่ออกมา ระบุว่า แม้จะมีจำนวนวัยรุ่นไม่น้อยที่มีอุปกรณ์สวมศีรษะสำหรับเข้าสู่โลกความจริงเสมือน (VR) แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เริ่มใช้มันเป็นประจำเหมือนกับการใช้สมาร์ทโฟน
ทั้งนี้ พบว่า 26% ของวัยรุ่น มีอุปกรณ์สวมศีรษะ VR เป็นของตัวเองแล้ว โดยระดับการเป็นเจ้าของนี้มากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ แต่มีเพียง 5% ของวัยรุ่นที่ระบุว่า พวกเขาใช้เทคโนโลยีนี้เป็นประจำ ระดับการมีส่วนร่วมยังคงอยู่ในระดับ “ไม่น่าสนใจ”
สำหรับการใช้งานอุปกรณ์ VR ยังต่ำอยู่ มาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่ต้นทุนที่ยังไม่ปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้งานได้ ไปจนถึงขาดแอปพลิเคชันใช้งานที่เพียงพอ อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการนำเสนอปัญหาที่เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของเมตาเวิร์สที่ต้องเข้าใช้งานด้วย VR โดยนับตั้งแต่มีเมตาเวิร์ส ก็อาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนแอปพลิเคชันที่ยังมีไม่มากในตอนนี้ ก็แน่นอนว่าอาจจะทำให้ไม่มีสิ่งดึงดูดความสนใจการใช้งานมากนัก
สำหรับธุรกิจเกม มีรายได้ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จากจำนวนผู้เล่นที่คาดการณ์ว่ามีหลักพันล้านคนทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Z รวมถึงคนรุ่นต่อๆ มา ที่เติบโตมาในโลกดิจิทัล ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายของ Microsoft คู่แข่งสำคัญของ Meta โดยที่ผ่านมา Microsoft ก็มีการใช้จ่ายเกือบ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อกิจการ Activision Blizzard
จากผลการศึกษาล่าสุดโดย Razorfish และ Vice Media Group เกี่ยวกับผู้เล่นเกม Gen Z พบว่า 20% ของงบประมาณที่พวกเขาใช้เพื่อความบันเทิงและการพักผ่อน จะเป็นการเงินซื้อของในเกม ในช่วง 5 ปีข้างหน้า แต่ในปัจจุบันยังมีกลุ่มน้อยเท่านั้นที่เล่นเกมที่ใช้อุปกรณ์ VR คือมีแค่ 3% ของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มเกมยอดนิยม Steam ที่มีอุปกรณ์ VR
ในส่วนของคอนเสิร์ตและกีฬาเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพการเติบโต แต่ยังไม่มีไดรเวอร์ที่ทำออกมาเพื่อสิ่งเหล่านี้โดยเฉพาะ ขณะที่การศึกษา ที่สามารถใช้การทัศนศึกษษผ่านโลกเสมือนที่ใดๆ ก็ตามในโลก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ VR ให้เป็นประโยชน์ได้ แต่ก็ยังไม่มีการเริ่มดำเนินการรูปแบบนี้อย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา : CNBC