โดย…พริ้มพัชร จิรบวรพงศา, AFPTTM
แนวคิดเรื่องการมีอิสรภาพทางการเงิน (Financial Independence) ได้ถูกพูดถึงกันบ่อยมาก โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่มองว่า โลกของการทำงานในปัจจุบัน ทำให้เราต้องสูญเสียเวลาอันมีค่าในการใช้ชีวิต ส่งผลให้ไม่มีเวลาในการที่จะดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของตัวเราเอง รวมถึงคนในครอบครัว เพราะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดิ้นรนต่อสู้ ทำงานเพื่อแลกเงิน และสะสมความมั่งคั่งให้เพียงพอที่จะใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างมีความสุข ซึ่งก็คงจะดีกว่า ถ้าหากเราจะสามารถย่นระยะเวลาการทนทุกข์จากการทำงานให้สั้นลง และสามารถปลดเกษียณตัวเองได้เร็วๆ เพื่อไปใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ และนี่จึงเป็นที่มาของแนวคิด F.I.R.E movement (Financial Independence Retire Early Movement)
F.I.R.E movement คือการมีอิสรภาพทางการเงิน สามารถเกษียณได้ก่อนกำหนด และมีเวลาที่จะไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ โดยแนวทางของ F.I.R.E Movement ตั้งอยู่บน 3 หลักการที่ต้องลงมือทำอย่างเคร่งครัด
- หลักการแรกคือ เก็บออมประมาณ 50 – 70% ของรายได้
- หลักการที่สองคือ ต้องควบคุมรายจ่ายอย่างหนัก โดยต้องกินใช้ให้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ตัวเองสามารถจ่ายได้
- หลักการสุดท้ายคือ ต้องรู้จักลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงได้ในระยะยาวอย่างน้อยๆ 10 ปี
จากทั้ง 3 หลักการนี้ เห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ หากเรามีความตั้งใจจริงในการที่จะเกษียณตัวเองได้เร็วๆ เพื่อไปใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ ซึ่งเชื่อว่าคนรุ่นใหม่หลายๆ คนก็น่าจะคิดเช่นนี้
ดังนั้น หากตั้งใจแล้วว่าจะปลดล็อคตัวเองจาก “แก่ก่อนรวย” เป็น “รวยก่อนแก่” ด้วยแนวคิด F.I.R.E movement หลังจากที่ทำความเข้าใจและยอมรับทั้ง 3 หลักการข้างต้น ขั้นตอนต่อไปที่ควรทำ คือ
1) การวางแผนเกษียณ โดยต้องเลือกรูปแบบเกษียณที่เราต้องการ เพื่อประเมินออกมาเป็นจำนวนเงินที่ต้องมีไว้ใช้หลังเกษียณ เพราะการเกษียณไว ก็เท่ากับว่าเราจะมีช่วงเวลาในการใช้เงินจนถึงสิ้นอายุขัยนานกว่าคนที่เกษียณเมื่ออายุมาก
2) หาวิธีควบคุมรายจ่าย เพราะอย่างที่บอกว่าเราต้องประหยัดมากๆ เข้าขั้นตระหนี่ เพื่อให้มีเงินเหลือมากที่สุด
3) หาทางเพิ่มรายได้ เพื่อให้มีเงินเหลือออม เหลือลงทุนมากขึ้น
4) ให้ความสำคัญกับการออม การลงทุนให้มากๆ ศึกษาช่องทางลงทุน และเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม แม้ความฝันที่จะเกษียณตัวเองได้เร็วๆ เพื่อไปใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการนั้นจะเป็นเรื่องที่วัยทำงานทุกคนต้องการ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแนวคิดและแนวทางปฏิบัติตาม F.I.R.E Movement อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะด้วยเงื่อนไข บริบท และความจำเป็นในชีวิตของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน เราจึงควรนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อที่จะสามารถมีความสุขได้ในทุกช่วงเวลา
ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่สามารถออมหรือลงทุนได้ 50 – 70% ของรายได้ในแต่ละเดือน เพื่อที่จะเกษียณตอนอายุ 40 ปีได้ แต่เราอาจจะสามารถเกษียณได้ตอนอายุ 50 ปี ด้วยการออมหรือลงทุนอย่างมีวินัย 10 – 20% ของรายได้แต่ละเดือน
ดังนั้น ใจความสำคัญของการเกษียณได้ไว จึงอยู่ที่ความมุ่งมั่นตั้งใจ การวางแผน การลงมือทำอย่างมีวินัย และที่สำคัญคือ การมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุน สามารถเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสมตามเป้าหมาย สอดคล้องกับความเสี่ยงและระยะเวลาที่ต้องการ
นอกจากนี้ หลังจากที่เกษียณได้ไวสมใจแล้ว สิ่งที่ยังต้องทำต่อไปนั่นก็คือ การบริหารจัดการเงินหลังเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องการหารายได้เพิ่ม เรื่องการเพิ่มความมั่งคั่งให้ต่อเนื่องด้วยการลงทุน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้เรามีสุขได้ตลอดช่วงเกษียณ