Economic Ressearch
Fed front-loaded 75 bps policy rate raise in June meeting
Key Event
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ Fed หรือ FOMC ประจำเดือน มิ.ย. มีมติ 10:1 ให้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 75 bps สู่กรอบ 1.5-1.75% โดยมีคณะกรรมการ 1 ท่านคือ Esther George หรือประธาน Fed สาขา Kansas City เห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 50 bps
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ FOMC ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงในรอบนี้เนื่องด้วยเครื่องชี้ความคาดหวังอัตราเงินเฟ้อที่จัดทำโดย University of Michigan ปรับตัวแรงเป็นไปในลักษณะเดียวกับเครื่องชี้อื่นๆ ที่จัดทำโดย Fed เป็นผลให้ประเด็นด้านเงินเฟ้อกลายเป็นความกังวลหลักของคณะกรรมการทุกท่าน
ด้านทิศทางของการดำเนินนโยบายการเงินในเดือนก.ค. ประธาน Fed ยังเปิด Option ให้ทั้งระหว่าง 50 หรือ 75 bps ซึ่งประธานไม่ออกความเห็นชัดเจนเมื่อผู้สื่อข่าวถามความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปถึง 100 bps ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯด้วย โดย
- อัตราเงินเฟ้อ Headline PCE ปีนี้ได้รับการปรับขึ้นเป็น 5.2% จาก 4.3% ในประมาณการครั้งก่อน ส่วน Core PCE ได้รับการปรับขึ้นเล็กน้อยมาที่ 4.3% จากการประมาณการครั้งก่อนที่ 4.1%
- ด้านอัตราการว่างงานปีนี้ ได้รับการปรับขึ้นมาที่ 3.7% (vs. 3.5% prior) และมีสิทธิไปถึง 4.1% (vs. 3.6% prior) ในปี 2024
- GDP ได้รับการปรับลงมาที่ 1.7% ปีนี้ (vs. 2.8% prior) และถูกปรับลดลงต่อเนื่องในปี 2023 ที่ 1.7% จากก่อนหน้าที่ประมาณการไว้ที่ 2.2% ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาวอยู่ที่ 1.8%
Dot Plot สะท้อนภาพของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แรงขึ้น เป็นมาอยู่ในกรอบ 3.25-3.5% (เพิ่มจากประมาณการเดิม 150 bps) ในปีนี้ และ 3.75% (เพิ่มจากประมาณการเดิม 100 bps) ในปี 2023 ก่อนจะกลับมาในกรอบ 3.25-3.5% (จากเดิมที่ 2.75%) ในปี 2024 ส่วน Terminal Rate อยู่ที่ 2.5% จากประมาณการเดิมที่ 2.4%
ในการสัมภาษณ์สื่อมวลชน เรายังเห็นคำตอบที่ค่อนข้าง Mixed ดังนั้นคงจะต้องติดตามพัฒนาการของตัวเลขเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องต่อไป อนึ่ง การประชุมครั้งถัดไปคือในระหว่างวันที่ 26-27 ก.ค. นี้