สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ว่า เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณว่า อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นอีกนานเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ในรอบสองทศวรรษที่ 109.4 ในการค้าขายในเอเชียในช่วงต้น โดยความแข็งแกร่งของดอลลาร์ผลักดันให้สกุลเงินหลักอื่นๆ ไปสู่ระดับต่ำสุดใหม่และสร้างแรงกดดันต่อคู่ตลาดเกิดใหม่
ค่าเงินดอลลาร์แตะ 138.59 เมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นในการซื้อขายช่วงต้นของเอเชีย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้น 0.59% มาอยู่ที่ 138.485 ค่าเงินหยวนในต่างประเทศร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 6.9321 ต่อดอลลาร์ในทำนองเดียวกัน
ค่าเงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1.1656 ดอลลาร์ และลดลง 0.5% ที่ 1.16715 ดอลลาร์ ในขณะที่เงินยูโรลดลง 0.36% เป็น 0.9929 ดอลลาร์
การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นในวันศุกร์ เนื่องจากพาวเวลเตือนว่าจะมี “ความเจ็บปวด” สำหรับครัวเรือนและธุรกิจเนื่องจากเฟดต้องใช้เวลาในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
แครอล คอง ผู้ช่วยอาวุโสด้านกลยุทธ์สกุลเงินและเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของ Commonwealth Bank of Australia ระบุว่า “คิดว่าในสัปดาห์นี้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐจะสูงขึ้นไปถึง 110 จุด เช่นเดียวกับที่ผู้มีส่วนร่วมในตลาดยังคงขึ้นราคาในรอบที่เข้มงวดมากขึ้นโดยธนาคารกลางรายใหญ่”
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่อ่อนไหวต่อความเสี่ยงนั้นได้รับผลกระทบจากความกังงลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.55% มาอยู่ที่ 0.6853 ดอลลาร์ ในขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 0.6105 ดอลลาร์ และซื้อขายล่าสุดลดลง 0.33% ที่ 0.6113 ดอลลาร์
ที่มา: รอยเตอร์