โดย อรพรรณ บัวประชุม CFP®
สำหรับใครที่เตรียมตัวลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีคงหนีไม่พ้นการลงทุนในกองทุนรวม RMF และ SSF ซึ่งเป็นการลงทุนที่สามารถนำเงินลงทุนมาลดหย่อนภาษีได้ ใครที่เคยลงทุนแล้วจะรู้ว่าทั้ง RMF และ SSF มีหลายนโยบายลงทุนให้เลือกลงทุน
ส่วนใครที่ยังไม่เคยลงทุนในกองทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษีมาก่อน อยากลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี แล้วก็อยากจัดพอร์ตลงทุนด้วย แต่อาจจะเลือกลงทุนไม่ถูกว่าควรเลือกลงทุนในกองทุนอะไร แนะนำแบบนี้ค่ะ
กองลดหย่อนภาษีระยะสั้น ที่ต้องบอกแบบนี้ เพราะมีนักลงทุนบางส่วนที่อาจจะลงทุนมานานแล้ว หรือเพิ่งเริ่มลงทุน แต่คาดว่าจะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพียงแค่ 5 ปี การเลือกลงทุนในกองทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษีคงหนีไม่พ้นการลงทุนในกองทุนรวม RMF ที่ช่วยให้เราสะสมเงินลงทุนทุกปีต่อเนื่อง ได้ลดหย่อนภาษีต่อเนื่อง และเมื่อครบกำหนดการลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี และอายุครบ 55 ปีขึ้นไปก็สามารถขายคืนได้
หากระยะเวลาการลงทุนที่ต้องการเพียงแค่ 5 ปี และหลังจากนั้นจะเริ่มทยอยใช้เงิน การจัดพอร์ตการลงทุนอาจเน้นหนักมาที่กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ 70% ส่วนที่เหลือสามารถลงทุนในตราสารทุนในประเทศและต่างประเทศ แต่ถ้าไม่อยากเลือกลงทุนหลายกองทุน ก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนผสมที่มีการกำหนดสัดส่วนการลงทุนได้อย่างเช่น BMAPS25RMF
ส่วนใครที่มีระยะเวลาการลงทุนและต้องการลดหย่อนภาษีระยะยาวสักหน่อย มากกว่า 5 ปี ถึง 10 ปี ในกรณีนี้ก็สามารถจัดพอร์ตการลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนได้มากขึ้น อาจจะลงทุน 50:50 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเรารับความเสี่ยงได้สูงมั้ย หากใครที่รับได้น้อยกว่านี้ก็สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงอีกสักหน่อยก็ได้ หรือใครที่รับความเสี่ยงได้สูงกว่านี้ก็ปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นขึ้นมาอีกสักหน่อย
สำหรับกองทุนแบบสำเร็จรูปนั้น แนะนำ BMAPS55RMF ที่เหมาะกับการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีระยะกลางถึงยาว สามารถลงทุนได้ทั้ง RMF และ SSF ซึ่งหากใครที่ต้องการลงทุนใน SSF เมื่อลงทุนแล้ว เงินลงทุนจะสามารถขายคืนได้เมื่อมีระยะเวลาลงทุนนาน 10 ปีเต็ม ดังนั้น เงินที่ลงทุนใน SSF เราจะสามารถขายคืนได้ก็ต่อเมื่อมีการลงทุนแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปีนั่นเอง จึงทำให้เราสามารถผสมผสานการลงทุนทั้ง RMF และ SSF ได้ ตามระยะเวลาที่ต้องการใช้เงินในอนาคตค่ะ
ส่วนใครที่ยังเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน ที่มีระยะเวลาการทำงานอย่างเหลือเฟือมากกว่า 10 ปีขึ้นไป การเลือกลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีสามารถเลือกลงทุนได้ทั้ง RMF และ SSF ซึ่งสัดส่วนการลงทุนนั้น โดยเฉพาะใครที่รับความเสี่ยงได้สูง มีระยะเวลาการลงทุนอีกยาวนานมากๆ อาจจะมีเวลาลงทุนได้นานกว่า 20 ปี หากเป็นแบบนี้ ก็สามารถเลือกลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่สูงมากได้ อาจจะสูงถึง 90 หรือ 100% การเลือกลงทุนในกองทุนแบบสำเร็จรูปอย่างเช่น BMAPS100 ก็เป็นทางเลือกนึงที่สามารถเลือกลงทุนได้
หรือใครที่ต้องการลงทุนเองก็สามารถกระจายการลงทุนได้อย่างหลากหลาย ยิ่งมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนาน ยิ่งได้เปรียบ ทำให้เรามีโอกาสเลือกลงทุนได้หลากหลายนโยบาย อย่างเช่น การลงทุนใน B-SIPRMF หรือ B-SIPSSF ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนในระยะยาว จากการที่บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยการคำนึงถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารที่โปร่งใส เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่ใส่ใจอยากทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น
ไม่ว่าเราจะมีระยะเวลาลงทุนกี่ปีสำหรับการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ก็อย่าลืมว่า หลังจากที่เราเกษียณในอนาคตก็ยังสามารถลงทุนได้ เพราะเรายังต้องใช้ชีวิตหลังเกษียณกันอีกยาวค่ะ และอย่ามัวแต่กล้าๆ กลัวๆ จะเริ่มลงทุนเมื่อไหร่ จะเริ่มวันไหน แนะนำให้เริ่มทันที และลงทุนโดยการใช้ DCA เป็นตัวช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้ง่ายขึ้นค่ะ