สำนักข่าว The Business Times รายงานเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 อ้างอิงรอยเตอร์ว่า ราคาทองคำมุ่งหน้าสู่การร่วงลงประจำสัปดาห์ในวันศุกร์ (18 พ.ย.) เนื่องจากการซื้อขายครั้งล่าสุดได้หายไปหลังจากผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐหลายคนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะสูงขึ้นอีก ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Gold Spot ทรงตัวที่ 1,761.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 00.17 GMT สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าทรงตัวที่ 1,763.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนทองคำแท่งมีแนวโน้มลดลงรายสัปดาห์ประมาณ 0.6% แม้จะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมในวันอังคาร
หลังจากหลายเดือนที่ลดลง ราคาของทองคำพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะชะลอตัวลง แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่านักลงทุนสถาบันมีความระมัดระวังและกำไรที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นเรื่องยาก
เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า แม้จะอยู่ภายใต้การวิเคราะห์นโยบายการเงินที่ “generous” เฟดก็จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากการเข้มงวดจนถึงขณะนี้มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่ออัตราเงินเฟ้อที่สังเกตได้”
ด้าน Neel Kashkari ประธานธนาคารกลาง Minneapolis กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐไม่ควรหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะชัดเจนว่าอัตราเงินเฟ้อถึงจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้การส่งออกทองคำของสวิสไปยังจีนและตุรกียังคงแข็งแกร่งในเดือนตุลาคม ในขณะที่การส่งออกไปยังอินเดียลดลง ข้อมูลศุลกากรของสวิสเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี
สำหรับราคาสปอตซิลเวอร์เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 20.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แพลตินัมเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 985.41 ดอลลาร์สหรัฐ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 2,015.12 ดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: The Business Times