สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ว่า ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) คาดว่า เอเชียและตะวันออกกลางจะทำผลงานได้ดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566
นายไซมอน คูเปอร์ ซีอีโอ ของ Standard Chartered ฝ่ายธุรกิจธนาคารพาณิชย์และสถาบัน กล่าวว่า ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจธุรกรรมธนาคารและตลาดการเงิน โดยคาดว่า ทั้งสองภูมิภาคจะยังคงเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ประเทศตะวันตกหลายประเทศเผชิญกับภาวะชะลอตัว
“ไม่เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่ในเอเชียและตะวันออกกลาง มองว่าเศรษฐกิจไปได้ดี”
Standard Chartered ซึ่งดำเนินงานใน 59 ประเทศโดยเน้นที่เอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กำลังเห็นว่า ลูกค้าในยุโรปและสหรัฐฯ ย้ายธุรกิจไปยังเอเชียที่มีต้นทุนต่ำมากขึ้น คูเปอร์ยังเน้นย้ำว่า อินเดียเป็นผู้ได้รับประโยชน์อย่างมาก จากการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ การมุ่งเน้นของ StanChart ไปที่ตลาดที่มีการเติบโตและความสามารถในการทนต่อสภาพเศรษฐกิจใจกลางเมืองได้ดียิ่งขึ้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ธนาคารระดับโลกบางแห่งมีแผนที่จะลดงานลง ในขณะที่กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและได้รับผลกระทบจากธุรกิจวาณิชธนกิจที่อ่อนแอ
โดย StanChart ซึ่งทำรายได้ส่วนใหญ่ในเอเชีย รายงานกำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 40% ในไตรมาสที่ 3 และเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของรายได้สำหรับปี 2565 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนธุรกิจสินเชื่อหลัก ขณะที่รายได้จากธุรกิจตลาดการเงินของ StanChart เพิ่มขึ้น 17% เป็นประวัติการณ์ในไตรมาสล่าสุด
ที่มา: รอยเตอร์