สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 24 พฤศจิายน 2565 ว่า ฌอง-พอล เซอร์เวส์ ประธานคนใหม่ขององค์กรคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (International Organization of Securities Commissions – IOSCO) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังด้านหลักทรัพย์ระดับโลกเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่า การล้มละลายของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอเรนซี อย่าง FTX ทำให้เกิดความเร่งด่วนมากขึ้นในการควบคุมภาคคริปโทฯ และจะให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มต่างๆ ของกลุ่มบริษัทในปี 2566
ทั้งนี้ การควบคุมแพลตฟอร์มคริปโทฯ สามารถใช้หลักการเดียวกับภาคส่วนอื่นๆ ที่ใช้ในการจัดการปัญหาความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ต่างๆ เช่น หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และหน่วยงานซึ่งรวบรวมเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ของตลาด โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
สำหรับสินทรัพย์คริปโทฯ เช่น บิทคอยน์ มีมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลใดเข้าไปเขียนกฎเกณฑ์ใหม่อย่างจริงจัง แต่การล่มสลายของ FTX ซึ่งทำให้เจ้าหนี้ราว 1 ล้านรายต้องเผชิญกับความสูญเสียมูลค่ารวมหลายพันล้านดอลลาร์นั้น จะเข้ามาช่วยในการเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน
“ความรู้สึกเร่งด่วนไม่เหมือนเดิม แม้เมื่อ 2 หรือ 3 ปีที่แล้ว มีความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับว่าคริปโทฯ เป็นปัญหาจริงในระดับสากลหรือไม่ เพราะบางคนคิดว่า มันยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญและความเสี่ยง อย่างไรก็ดี สิ่งต่างๆ กำลังเปลี่ยนแปลง และด้วยการเชื่อมโยงกันระหว่างธุรกิจประเภทต่างๆ ผมคิดว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะเริ่มพูดคุยกัน และนั่นคือ ทิศทางที่เรากำลังจะมุ่งไป”
ล่าสุด IOSCO ซึ่งประสานงานกฎสำหรับประเทศ G20 และประเทศอื่นๆ ได้กำหนดหลักการในการควบคุม Stablecoins ไว้แล้ว แต่ตอนนี้โฟกัสไปที่แพลตฟอร์มที่ซื้อขายในนั้น ขณะที่ในการเงินกระแสหลัก มีการแบ่งแยกการทำงานระหว่างกิจกรรมต่างๆ เช่น นายหน้า การซื้อขาย บริการธนาคาร และการออก โดยแต่ละกิจกรรมมีกฎการปฏิบัติและการป้องกันของตนเอง
“ด้วยเหตุผลด้านการคุ้มครองนักลงทุน มีความจำเป็นต้องให้ความชัดเจนเพิ่มเติมแก่ตลาดตลาดคริปโทฯ ผ่านคำแนะนำที่เป็นเป้าหมายในการใช้หลักการของ IOSCO กับสินทรัพย์ crypto โดยเราตั้งใจที่จะเผยแพร่รายงานการปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566”
อย่างไรก็ตาม ตลาดใหม่ของสหภาพยุโรปในสินทรัพย์คริปโทฯ หรือกรอบ MiCA เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาคำแนะนำทั่วโลก เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่การกำกับดูแลผู้ประกอบการคริปโทฯ
ที่มา: รอยเตอร์