2022 – Opportunities are never lost |
INVESTMENT STRATEGY
By BBLAM
ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist จาก BBLAM มองหุ้นไทยปีหน้า ว่า ให้จับตาทุนต่างชาติหอบเงินลงทุนโดยตรงในไทยเป็นผลบวกกับการลงทุน
(โปรดดู VDO เพื่อติดตามโดยละเอียด)
ทั้งนี้ เมื่อมองไปข้างหน้าในหลายๆ ประเทศ ก็หลีกหนีไม่พ้นประเด็นที่รู้และไม่รู้เหล่านี้ แต่ขอเพิ่มเติมสำหรับประเด็นของไทยว่า สิ่งที่น่าสนใจและมีน้ำหนักในปี 2023 พอสมควร คือ การที่ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนโดยตรงในไทยมากขึ้น เนื่องจากไทยมีเสน่ห์ที่ยังเป็นประเทศ laggard คือ ปรับตัวตามล่าช้ากว่าประเทศอื่น จึงมีบริษัทใหญ่ ๆ ของโลกสนใจเข้ามา เพราะมองหา laggard ลงทุนอยู่
สิ่งที่เห็น ณ ตอนนี้ คือ
- การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากว่า 80 เท่าแล้วจากปี 2021 และธุรกิจที่เข้ามาลงทุนในไทย ไม่ใช่เป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปแบบเดิมๆ แต่เป็นอุตสาหกรรมที่ยกระดับไปอีกขั้น เช่น การออกแบบ ก่อสร้าง ติตตั้ง ตรวจสอบระบบกักเก็บพลังงานสำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าผสมผสานที่สนามบินอู่ตะเภา การขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมในพื้นที่แปลงสำรวจสัมปทานในอ่าวไทย และสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
- การที่ธุรกิจที่มาลงทุน เป็นกลุ่มที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการของไทยแล้ว ก็ยังตอบโจทย์ความต้องการของประเทศรอบข้างด้วย ซึ่งก็จะให้ประโยชน์อะไรหลายอย่างตามมาแน่นอน เช่น การจ้างงานในประเทศ ดังนั้น เราสามารถลงทุนโดยไปติดตามกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากการที่ต่างชาติมาลงทุนโดยตรงในไทยได้
ดร.มิ่งขวัญ ชี้ว่า สำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนในประเทศ ก็จะมีกองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมที่ลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมทองคำ และหุ้นไทยซึ่งจะพบว่า ไทยเป็นประเทศที่ตลาดหุ้นปรับขึ้นล่าช้ากว่าประเทศอื่น และเวลาปรับขึ้นมาแล้วก็ไม่ยอมปรับลดลง ดังนั้น ถ้าเห็นว่ามีธีมการลงทุนไหนที่เป็นแนวโน้มที่โลกสนใจและเล่นไปหมดแล้วที่ประเทศอื่น ก็อาจจะเห็นมาเล่นธีมนั้นในบ้านเราได้ในปี 2023 และเมื่อรวมกับความหวังเรื่องการเลือกตั้งในไทยที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 แล้ว ในช่วงเวลาแบบนี้ ก็ยังลงทุนในหุ้นไทยได้
ขณะที่ BBLAM ก็มีกองทุนหุ้นไทยที่ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เลือกหลายกองทุน ซึ่งในปีนี้ก็มีหลายกองที่สามารถทำผลตอบแทนเป็นบวกได้
BBLAM แนะนำกองทุน
กองทุนตราสารหนี้ : B-FIXED และกองทุนที่นำไปลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ BFRMF และ B-INCOMESSF
กองทุนหุ้นไทย – กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ B-INFRA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ IN-RMF
กองทุนหุ้นไทย – เน้นธุรกิจพื้นฐานปัจจัย 4 ที่ปรับตัวได้ทันกระแสโลก ได้แก่ BBASIC และกองทุนลดหย่อนภาษี BBASICRMF
กองทุนหุ้นไทย ได้แก่ BKA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ BFLRMF และ BEQSSF
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนสามารถลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จาก ธนาคารกรุงเทพ และสำหรับผู้ลงทุนกองทุน RMF และ SSF ผ่านช่องทางของธนาคารกรุงเทพ สามารถชำระเงินลงทุนผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพได้อีกด้วย
ลูกค้า โมบายแบงก์กิ้ง จาก ธนาคารกรุงเทพ เลือกเพื่อลงทุนได้เลย คลิกลิงก์ https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/Save-And-Invest/Mutual-Funds
หรือลงทุนผ่าน BF Fund Trading จาก BBLAM ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tinyurl.com/kfsebd74
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.bblam.co.th/bualuang-insights/bblam-investment-insights/19-23-2022-1