สำนักข่าวรอยเตอร์ เอเอฟพี และบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 5 มกราคมว่า แอมะซอน บริษัทอี-คอมเมิร์ซชื่อดัง ประกาศว่า เตรียมปลดพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 18,000 ตำแหน่ง หลังก่อนหน้านี้ที่เคยประกาศว่า ตั้งเป้าที่จะปลดพนักงานจำนวน 1 หมื่นตำแหน่งไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยนายแอนดี้ แจสซี ซีอีโอของบริษัท ให้เหตุผลว่า การตัดสินใจดังกล่าวมาจากเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และบริษัทรับพนักงานเข้าทำงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากเกินไป
แจสซี กล่าวว่า ผู้บริหารของบริษัทรับรู้ว่า การปลดพนักงานเป็นสิ่งที่ยากสำหรับพนักงาน และผู้บริหารได้ไตร่ตรองถึงการตัดสินใจนี้อย่างละเอียดแล้ว “เราเตรียมที่จะให้ความช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปลดพนักงาน และจะมอบความช่วยเหลืออาทิ เงินชดเชย ผลประโยชน์ด้านประกันสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่านของพนักงาน และให้การสนับสนุนการหาตำแหน่งงานใหม่” แจสซี กล่าว
ในแถลงการณ์ของนายแจสซี ระบุว่า แอมะซอนจะปลดพนักงานบางส่วนในทวีปยุโรป และพนักงานที่ถูกปลดจะได้รับแจ้งจากบริษัทตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมเป็นต้นไป โดยพนักงานส่วนใหญ่ที่จะถูกปลดจะมาจากตำแหน่งในร้านค้าของแอมะซอน พนักงานแผนกฝ่ายบุคคล และเทคโนโลยี
อมะซอน ระบุว่า การวางแผนรายปีของบริษัททำได้ยากมากขึ้น เนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ปี แจสซี ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ของบริษัทว่า “แอมะซอนได้เผชิญกับความไม่แน่นอน และความยากลำบากทางเศรษฐกิจมาตลอดในอดีต และจะยังคงเผชิญกับความยากลำบากต่อไปในอนาคต”
ในช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทแอมะซอนจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในการซื้อสินค้าออนไลน์และนำไปส่งที่บ้านของลูกค้า เนื่องจากไม่สามารถออกมาในที่สาธารณะได้ เนื่องจากการล็อกดาวน์ ทำให้จำนวนพนักงานของแอมะซอนทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงระหว่างต้นปี 2020 กับต้นปี 2022 โดยกลุ่มบริษัทแอมะซอนมีพนักงานทั่วโลกทั้งหมด 1.54 ล้านคนในช่วงปลายเดือนกันยายน
ที่มา: รอยเตอร์ เอเอฟพี และบีบีซี