สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ว่า หุ้นเอเชีย พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน (11 ม.ค.) ขณะที่ดอลลาร์ทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ ที่อาจส่งผลต่อการปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนี MSCI หุ้นเอเชีย ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นมากถึง 0.82% แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 538.56 จุด ในขณะที่ดัชนี Nikkei ของ ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1% ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.90% ขณะที่ฟิวเจอร์สบ่งชี้ว่าบรรยากาศที่สดใสถูกกำหนดให้ดำเนินต่อไปในยุโรป โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Eurostoxx 50 พุ่งขึ้น 0.54% สัญญาซื้อขายล่วงหน้า DAX ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 0.57% และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า FTSE พุ่งขึ้น 0.37%
ในการปราศรัย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (10 ม.ค.) นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด งดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย แต่กล่าวว่าความเป็นอิสระของเฟดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการต่อสู้กับเงินเฟ้อซึ่งส่งผลให้หุ้นสหรัฐปิดตลาดสูงขึ้น
ขณะที่ ความสนใจของนักลงทุนจะอยู่ที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.66) ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าจะแสดงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปประจำปีของเดือนธันวาคมที่ 6.5% เทียบกับ 7.1% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งข้อมูลในวันพฤหัสบดีจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะดำเนินการอย่างไรกับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566
เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนธันวาคม หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งหมด 4 ครั้งติดต่อกันในปี 2565 แต่ย้ำว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นไปอีกนานเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
สตีเฟน วู นักเศรษฐศาสตร์ จาก Commonwealth Bank of Australia กล่าวว่า นักลงทุนต่างวางเดิมพันว่ารายงานเงินเฟ้อที่กำลังจะมาถึงอาจแสดงการชะลอตัวลงอีก ซึ่งอาจทำให้เฟดมีโอกาสชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ทั้งนี้ หุ้นของจีนปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ในขณะที่ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 1% โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมูลค่าหุ้นที่ลดลง
ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดอลลาร์ออสเตรเลียสูงขึ้น 0.3% หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปีเพิ่มขึ้นเป็น 7.3% ในเดือนพฤศจิกายน ดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.1% ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล ส่วนใหญ่ทรงตัวที่ 103.21 ซึ่งอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ส่วนเงินเยนอ่อนค่าลง 0.05% มาอยู่ที่ 132.33 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ปอนด์ซื้อขายล่าสุดที่ 1.2162 ปอนด์ต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.1% ในวันนั้น
สำหรับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 2.8bp เป็น 3.591% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 30 ปีลดลง 4.3bp เป็น 3.711% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีของสหรัฐ ซึ่งโดยทั่วไปเคลื่อนไหวตามการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ลดลง 2.1bp ที่ 4.237%
ที่มา: รอยเตอร์