โฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี เปิดเผยแผนการลงทุน 5 ปี ระหว่างปี 2566-2570 พร้อมงบลงทุนกว่า 1.8 แสนล้านยูโร (หรือประมาณ 6.67 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 13% จากแผนลงทุนหลายปีก่อนหน้า โดยงบประมาณสองในสามจะมุ่งเน้นไปที่กิจการรถยนต์ไฟฟ้าและการพัฒนาระบบดิจิทัล เพื่อนำมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีด้านพลังงาน (Electrification and Digitalization)

บริษัทยานยนต์สัญชาติเยอรมัน กล่าวว่า เงินงบประมาณ 68% หรือประมาณ 1.22 แสนล้านยูโร (ประมาณ 4.5 ล้านล้านบาท) จะถูกนำไปพัฒนาและต่อยอดธุรกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อครองความเป็นเจ้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่กำลังร้อนระอุ

ทั้งนี้ โฟล์คสวาเกนคาดการณ์ว่า ในปี 2568 รถยนต์ทุก ๆ หนึ่งในห้าคันที่จำหน่ายทั่วโลกจะเป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมด

สำหรับเหตุผลหลักในการเพิ่มการลงทุนของบริษัทในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่เพิ่ม ตลอดจนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 มีนาคม) บริษัทได้ประกาศว่า ได้เลือกเมืองออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งแรกในทวีปอเมริกาเหนือ

โฟล์คยอดจัดส่งรถยนต์โดยรวมลดลง 7% สู่ระดับ 8.3 ล้านคัน ในปี 2565 และกระแสเงินสดสุทธิของธุรกิจยานยนต์ของบริษัทลดลงสู่ระดับ 4.8 พันล้านยูโร จาก 8.6 พันล้านยูโรในปี 2564 โดยโฟล์คสวาเกน กล่าวว่า สาเหตุการหดตัวลงของยอดจำหน่ายรถยนต์ เนื่องจากต้นทุนการผลิตปรับตัวขึ้นจากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานและระบบการขนส่งโลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้สิ้นปี อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะกลับมาฟื้นตัวเป็นส่วนใหญ่ตลอดปี 2566

ที่มา: เอเอฟพี/ซีเอ็นบีซี