โดย เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® BBLAM
ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2566 นี้ บลจ.บัวหลวง ได้เปลี่ยนแปลงกองทุนหลักของกอง B-GLOBAL และ B-GLOBALRMF ใหม่ครับ โดยสาเหตุเกิดจากกองทุนหลักเดิม มีปัญหาข้อจำกัดในการลงทุนต่อในอนาคต โดยไม่ได้มีปัญหาด้านการดำเนินงานของกองทุนหรือปัญหาอะไร
เดิม กองทุนบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL) และบัวหลวงหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOBALRMF) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารทุนต่างประเทศประเภท feeder fund ได้นำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว คือ Wellington Global Opportunities Equity Fund ซึ่งบริหารจัดการโดย Wellington Management Company ซึ่งก็เป็นบริษัทที่เราไว้ใจและมีการนำเงินไปลงทุนด้วยหลายกองทุน อย่าง BCARE, B-GTO กองทุนหลักก็บริหารโดย Wellington เช่นกัน
เมื่อปลายปีที่แล้ว มีนักลงทุนต่างประเทศรายใหญ่ที่ลงทุนในกองทุนหลักได้ไถ่ถอนเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว ที่ไม่ได้เกิดจากปัญหาของกองทุนหลัก ทำให้สัดส่วนการลงทุนของ B-GLOBAL ในกองทุนหลักเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 40% ซึ่งเกินความมีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการที่ลงทุน (concentration limit) ซึ่งกำหนดไว้ ไม่เกิน 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยของกองทุนต่างประเทศตามเกณฑ์เรื่องการลงทุนของกองทุน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเพราะตามเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว B-GLOBAL จะไม่สามารถลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลักเพิ่มได้ มีเงินลงทุนมาใหม่ก็ลงไม่ได้ อันจะมีผลกระทบต่อการลงทุนของ B-GLOBAL เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนและให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ลงทุนใน B-GLOBAL เราจึงเห็นควรเปลี่ยนแปลงการลงทุนในกองทุนหลักเป็นกองทุนใหม่
ทีนี้จะเปลี่ยนเป็นกองไหน เราก็มีการหากองทุนที่อยู่ในข่ายที่ควรลงทุน ไม่ได้จำกัดเฉพาะกองของ Wellington นะครับ เราเลือกจากหลายๆ กองทุนที่ดูน่าสนใจ แล้วก็มาได้กองทุนหลักใหม่ คือ Wellington Global Quality Growth Fund ซึ่งมีขนาดกองทุนตอนนี้ประมาณ 6,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะไม่มีปัญหาเรื่อง concentration limit และยังคงบริหารจัดการโดย Wellington Management Company ผู้บริหารกองทุนหลักเดิม
บลจ.บัวหลวง เห็นว่า กองทุนหลักใหม่มีแนวทางการบริหาร และหุ้นที่คัดเลือกลงทุน เป็นไปในทิศทางใกล้เคียงกองทุนหลักเดิม ซึ่งทิศทางความเคลื่อนไหวราคา NAV ของกองทุนทั้ง 2 ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน (จากข้อมูลความเคลื่อนไหวของราคา NAV ย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ 2020 ถึง 2022)
และเพื่อให้วิธีการบริหารของ B-GLOBAL และ B-GLOBALRMF เป็นไปในแนวทางเดียวกัน สอดคล้องกับสิ่งที่นักลงทุนรับทราบข้อมูลมาโดยตลอดและเป็นไปตามความตั้งใจของ บลจ.บัวหลวง และป้องกันปัญหาการลงทุนเกิน concentration limit ของ B-GLOBALRMF ในอนาคต เมื่อเราย้าย B-GLOBAL ออกไป ก็เลยเปลี่ยนกองทุนหลักของ B-GLOBALRMF เป็น Wellington Global Quality Growth Fund ไปด้วยเลย
บลจ.บัวหลวง เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงกองทุนหลักของ B-GLOBAL และ B-GLOBALRMF ในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ลงทุนปัจจุบันและผู้ลงทุนใหม่ในอนาคต ภายใต้กรอบนโยบายและแนวคิดการลงทุนที่ใกล้เคียงกับของเดิมที่เคยแจ้งไว้กับผู้ลงทุนครับ
ตอนนี้ ปัจจุบัน กองทุนนี้มีการลงทุนหุ้นประมาณ 80 ตัว (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมกราคม 2566) หุ้นหลักๆ ที่อยู่ใน Top10 ก็เช่น Microsoft, Tencent, Visa, Alphabet, UnitedHealth Group ให้บริการผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและบริการประกันภัย และเป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก, Eli Lilly บริษัทผู้พัฒนา ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค รวมถึงเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์รักษาโรคในสัตว์และอาหารสัตว์, American Express เป็นต้น