“ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่จีนยุติการใช้นโยบาย Zero Covid ที่ทำให้การใช้จ่ายจากคนจีน ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และจะส่งผลบวกต่อกลุ่มสินค้า Premium Brands อย่างชัดเจน”
“ผู้จัดการกองทุนใช้กลยุทธ์ลงทุนในบริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค พร้อมทั้งเชื่อว่าตัวขับเคลื่อนการเติบโตสาหรับธีม Premium Brands ยังคงมีอยู่และหนุนการเติบโตระยะยาว”
ภาพรวมตลาด
อัตราเงินเฟ้อที่และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้นักลงทุนกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและส่งผลให้มีพฤติกรรมที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่จีนยุติการใช้นโยบาย Zero Covid ที่ทำให้การใช้จ่ายจากคนจีน ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และจะส่งผลบวกต่อกลุ่มสินค้า Premium Brands อย่างชัดเจนในปี 2566 เนื่องจากสินค้า Premium Brands มีอัตรากำไรสูง รวมถึงมีความสามารถในการกำหนดราคา ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และยังมียอดขาย รวมถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง แม้ว่าในภาพรวมตลาดจะยังคงมีความผันผวนอยู่ก็ตาม
พอร์ตการลงทุน
หุ้นกลุ่ม Premium Brands ปรับตัวขึ้นดีในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ กลุ่มสุราปรับตัวลง โดยหุ้นที่มีผลการดำเนินงานดี คือ หุ้น Capri กลุ่มผู้นำแบรนด์แฟชั่นลักซ์ชัวรี่ระดับโลก อย่าง VERSACE, JIMMY CHOO, MICHAEL KORS และหุ้น Nike รายงานตัวเลขรายไตรมาสที่ยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมาย ทั้งด้านยอดขายและอัตรากำไร อย่างไรก็ตาม หุ้น Tesla มีผลการดำเนินงานไม่ดีนัก จากปัญหาด้านธรรมาภิบาลและการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่การลดราคาและแรงกดดันด้านอัตรากำไรขั้นต้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ หุ้น Apple ยังอ่อนแอจากหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่สาคัญในจีน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบในทางลบต่อยอดขาย iPhone
ในช่วงปลายปี 2565 กองทุน Pictet-Premium Brands ได้เพิ่มการลงทุนใน Interparfums ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำหอมระดับพรีเมียมที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะตัว เช่น หุ้น Montblanc, Jimmy Choo, Coach, Ferragamo, Moncler และ หุ้น Ulta เพื่อได้รับประโยชน์จากความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และเพิ่มการลงทุนใน Starbucks เนื่องจากบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการเปิดใหม่อย่างต่อเนื่องในจีนและมีการซื้อขายในระดับมูลค่าที่น่าสนใจในทางกลับกัน กองทุนได้ลดสัดส่วนการลงทุนใน Apple เนื่องจากการหยุดชะงักของอุปทานครั้งใหญ่ในจีนอาจส่งผลเสียต่อยอดขาย และคาดว่าบริการของ Apple จะชะลอตัวลง และการลงทุนในบริษัทที่แข็งแกร่งอย่าง Hermès เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่เริ่มสูงมากเกินไป
มุมมองผู้จัดการกองทุน
ผู้จัดการกองทุนใช้กลยุทธ์ลงทุนในบริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่งซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง บริการที่เหนือกว่า และมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการบริการ รวมถึงมีการประเมินความสามารถของบริษัทต่างๆ ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยผลกำไรที่สูงและการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง โดยระดับการประเมินมูลค่าต้องมีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับแนวโน้มการเติบโต
ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนยังเชื่อว่าตัวขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับธีม Premium Brands ยังคงมีอยู่และหนุนการเติบโตระยะยาว ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายและความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งในอนาคต
Disclaimer: เอกสารนี้ จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนาในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้
ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน ในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่ง ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต