Fund Comment, เมษายน 2561
ภาพรวมตลาดหุ้น
เดือนเมษายน ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสารจำนวนไม่กี่ตัวที่ปรับตัวขึ้นนั้นมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ SET Index ยังคงระดับได้ ในขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังปรับตัวลงจากความกังวลต่อการแข่งขันลดค่าธรรมเนียม และผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/2561 นับว่ายังไม่โดดเด่น
นอกจากนี้ ในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กจำนวนหลายตัวได้มีแรงขายออกมามาก ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนั้นเป็นช่วงของการประกาศงบไตรมาสแรก ซึ่งปกติมักจะมีการเก็งกำไรเข้ามากขึ้นในหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบออกมาดี แต่ในปีนี้ การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นก่อนที่งบจะออกนั้นไม่ค่อยเกิดขึ้น สะท้อนว่า นักลงทุนไม่ค่อยมีมุมมองเชิงบวกมากนักต่องบการเงินที่กำลังจะประกาศ ซึ่งในช่วงของการประกาศงบ อาจจะเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่ปรับตัวลงมามากแต่ผลประกอบการไม่ได้แย่อย่างที่กังวล
ขณะที่ความกังวลประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯนั้นเริ่มบรรเทาลงไป โดยแม้จะยังมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่ก็มีความคาดหวังว่าทั้งสองประเทศน่าจะมีการเจรจากันได้มากขึ้นในอนาคต ค่าเงินบาทที่เริ่มพลิกมาอ่อนค่าอาจจะเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นได้บางส่วน แต่เชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดน่าจะมีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความอ่อนไหวจากความเสี่ยงด้านค่าเงินมากกว่าไทย ด้วยปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในสองประเทศดังกล่าว
ภาพรวมแล้ว เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะยังมีความผันผวนอยู่บ้าง โดยอาจจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways โอกาสที่ตลาดจะปรับตัวขึ้นยังค่อนข้างจำกัด เนื่องด้วยความตึงตัวของ Valuation ของหุ้น Big cap ประกอบกับการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ในภาพกว้าง การเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวจึงมีความสำคัญมาก และการที่ตลาดจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอาจจะต้องรอให้มีปัจจัยใหม่หรือเห็นสัญญาณการขยายตัวของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีนัยสำคัญมากกว่านี้
Fund Comment
หุ้นไทยเคลื่อนไหวแบบ Sideways ต่อเนื่องเป็นเดือนที่3
Fund Comment, เมษายน 2561
ภาพรวมตลาดหุ้น
เดือนเมษายน ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสารจำนวนไม่กี่ตัวที่ปรับตัวขึ้นนั้นมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ SET Index ยังคงระดับได้ ในขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังปรับตัวลงจากความกังวลต่อการแข่งขันลดค่าธรรมเนียม และผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/2561 นับว่ายังไม่โดดเด่น
นอกจากนี้ ในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กจำนวนหลายตัวได้มีแรงขายออกมามาก ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนั้นเป็นช่วงของการประกาศงบไตรมาสแรก ซึ่งปกติมักจะมีการเก็งกำไรเข้ามากขึ้นในหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบออกมาดี แต่ในปีนี้ การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นก่อนที่งบจะออกนั้นไม่ค่อยเกิดขึ้น สะท้อนว่า นักลงทุนไม่ค่อยมีมุมมองเชิงบวกมากนักต่องบการเงินที่กำลังจะประกาศ ซึ่งในช่วงของการประกาศงบ อาจจะเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่ปรับตัวลงมามากแต่ผลประกอบการไม่ได้แย่อย่างที่กังวล
ขณะที่ความกังวลประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯนั้นเริ่มบรรเทาลงไป โดยแม้จะยังมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่ก็มีความคาดหวังว่าทั้งสองประเทศน่าจะมีการเจรจากันได้มากขึ้นในอนาคต ค่าเงินบาทที่เริ่มพลิกมาอ่อนค่าอาจจะเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นได้บางส่วน แต่เชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดน่าจะมีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความอ่อนไหวจากความเสี่ยงด้านค่าเงินมากกว่าไทย ด้วยปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในสองประเทศดังกล่าว
ภาพรวมแล้ว เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะยังมีความผันผวนอยู่บ้าง โดยอาจจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways โอกาสที่ตลาดจะปรับตัวขึ้นยังค่อนข้างจำกัด เนื่องด้วยความตึงตัวของ Valuation ของหุ้น Big cap ประกอบกับการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ในภาพกว้าง การเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวจึงมีความสำคัญมาก และการที่ตลาดจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอาจจะต้องรอให้มีปัจจัยใหม่หรือเห็นสัญญาณการขยายตัวของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีนัยสำคัญมากกว่านี้