รอยเตอร์/ เอพี / เอเจนซีส์ / MGR ออนไลน์ – กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยออกคำเตือนวันเสาร์ (22 เม.ย.) พื้นที่ขนาดใหญ่ของไทยกำลังผจญกับคลื่นความร้อนสูงแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สูงสุด 43 องศาเซลเซียส เตือนให้หลบอยู่ภายในอาคารที่ร่มเพื่อความปลอดภัย นักวิชาการเปิดผลการวิจัยตีพิมพ์ลงวารสารวิชาการชื่อดัง The Lancet เมื่อต้นปีนี้ พบการปลูกต้นไม้ในเมืองเพิ่ม 30% สามารถลดอุณหภูมิได้จริง 0.4 องศาเซลเซียสในช่วงหน้าร้อนและลดตัวเลขการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอากาศร้อนจัดได้ถึง 1 ใน 3
รอยเตอร์ รายงานวานนี้ (22 เม.ย.) ว่า คลื่นความร้อนสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ถูกเรียกว่าเป็น “เมษาฮีทเวฟ” อ้างอิงจาก เดอะการ์เดียนของอังกฤษ กำลังเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของเอเชียกำลังคุกคามอย่างหนักต่อทั้งอินเดีย จีน ไทย และลาว ที่เห็นคนเสียชีวิตในคราวเดียวกันมากถึง 13 ราย รวมทั้งการปิดโรงเรียนในอินเดีย และการเสียชีวิตมาเป็นระยะของไทย อ้างอิงจากสื่อในประเทศที่เห็นเกิดขึ้นจากฮีทสโตรก เป็นต้นว่า ขับรถมอเตอร์ไซค์กลางแดดร้อนและหมดสติรถล้มดับกลางถนนที่จังหวัดนครสวรรค์ ในไทย เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ก่อนสงกรานต์
รอยเตอร์ รายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยออกประกาศคำเตือนถึงภัยคลื่นฮีทเวฟ ซึ่งในปีที่ผ่านมา เคยเข้าเล่นงานยุโรปจนสาหัสมาแล้ว พบพื้นที่ขนาดใหญ่ของไทย รวมกรุงเทพฯ กำลังผจญคลื่นความร้อนสีแดงฮีทเวฟ พร้อมออกคำเตือนให้ประชาชนหลบอยู่ภายในแต่ที่ร่มด้านในอาคารแทนเพื่อความปลอดภัย และเตือนให้รู้ว่า อาจเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดฮีทสโตรกได้
รอยเตอรชี้ ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแถลงว่า ในวันเสาร์ (22) ไม่ต่ำกว่า 28 จังหวัดมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
เอพี รายงานเพิ่มเติมว่า อ้างอิงจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า การพยากรณ์อากาศวันเสาร์ (22) ที่ประเมินว่า ภายใน 24 ชั่วโมงนี้คาดอุณหภูมิสูงสุดจะแตะ 43 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ ส่วนกรุงเทพฯ จะมีอุณหภูมิสูงราว 40 องศาเซลเซียส
ซึ่งตัวเลขอุณหภูมิสูงที่สุดวันเสาร์ (22) จะอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ สูง 42.5 องศาเซลเซียส
ด้าน อัมพร ศุภเสริฐ (Amporn Supasert) วัย 67 ปี อาชีพขายไก่ย่างในกรุงเทพฯ เปิดใจกับรอยเตอร์ในเรื่องอากาศร้อนและการแก้ไขว่า “บางครั้งร้อนมาก จนต้องหนีเข้าไปตากแอร์ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น”
ทั้งนี้ อากาศร้อนจัดยังทำให้การใช้กระแสไฟฟ้าพุ่งกระฉูดเป็นประวัติการณ์ รอยเตอร์รายงานว่า พบตัวเลขมาจนถึงวันที่ 6 เม.ย. มีการใช้กระแสไฟฟ้ามากถึง 39,000 เมกะวัตต์ เทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันจำนวนการใช้กระแสไฟฟ้ามีจำนวน 32,000 เมกะวัตต์
สุภิชญา จิตลีลา วัย 37 ปี ที่เข้าร่วมการหาเสียงปราศรัยทางการเมืองกลางแจ้ง กล่าวแสดงความเห็นอย่างโอดครวญกับเอพีว่า “ถึงแม้ว่าดิฉันจะเปิดแอร์ให้อยู่ที่ 20 องศา แต่ดิฉันยังเหงื่อออกอยู่เลย”
ทั้งนี้ ค่าดัชนีความร้อน (heat index) ซึ่งเป็นการวัดอุณหภูมิว่าสภาพอากาศแท้จริงที่มนุษย์รู้สึกภายใต้อุณหภูมินั้นเป็นเช่นใดเมื่อเปรียบเทียบกับความชื้น โดยมีการชี้ว่าค่าดัชนีความร้อนสูงสุดวันเสาร์ (22) 53.8 องศาเซลเซียสที่จังหวัดชลบุรี ส่วนในวันอาทิตย์ (23) ดัชนีความร้อนสูงสุดเกิดขึ้นกว่า 54 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ชาวภูเก็ตจะรู้สึกระหว่างการผจญอากาศร้อนวันนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านมหาสมุทรวิทยาทางชายฝั่งและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ประจำมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผศ.ดร.เมธิณี อยู่เจริญ ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้มาจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลก ส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติทางอากาศและปรากฏการณ์ที่เรียกว่าอากาศรุนแรง”
เอเอฟพี เคยรายงานเมื่อต้นกุมภาพันธ์ปีนี้ว่า มีงานวิจัยที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ The Lancet ชื่อดัง กล่าวว่า การปลูกต้นไม้มากขึ้นภายในพื้นที่ตัวเมืองจะช่วยลดอุณหภูมิความร้อนจากหน้าร้อนได้ และจะลดจำนวนตัวเลขการเสียชีวิตจากคลื่นฮีทเวฟ หรือสภาพอากาศร้อนได้ถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว
ซึ่งจากโมเดลในการวิจัยระบุว่า การเพิ่มจำนวนต้นไม้แค่ 30% จะสามารถช่วยลดอุณหภูมิลงได้ถึง 0.4 องศาเซลเซียสในพื้นที่โดยเฉลี่ยในฤดูร้อน โดยอ้างไปถึงผลวิจัยที่ระบุว่าระหว่างปี 2015 พบว่าจากตัวเลขการเสียชีวิตทั้งหมด 6,700 ราย เนื่องมาจากอากาศร้อนจัดครอบคลุม 93 เมืองในยุโรป พบว่า 1 ใน 3 สามารถป้องกันไว้ได้
เอเอฟพี รายงานว่า ทามารา ลังแมน (Tamara Iungman) ผู้ทำการวิจัยจากสถาบันบาร์เซโลนาเพื่อสุขภาพโลก (Barcelona Institute for Global Health) ยืนยันว่า การวิจัยนี้เป็นผลงานแรกที่เป็นการประเมินตัวเลขการเสียชีวิตที่มาจากอากาศร้อนตามเมืองต่างๆ ที่สามารถป้องกันได้ด้วยการเพิ่มจำนวนต้นไม้
ที่มา: รอยเตอร์ / เอพี