โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM

พรรคก้าวไกลได้คะแนนนำ ตลาดมองเป็นปัจจัยบวกและคาดว่า พรรคก้าวไกลจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

การเลือกตั้งทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2023 โดยที่มีผู้ลงคะแนนเสียง 75% ของผู้ที่มีสิทธิ์โหวต 52 ล้านคน

ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า พรรคก้าวไกลชนะคะแนนเสียงค่อนข้างห่าง โดยที่ ณ ขณะนี้จำนวนเก้าอี้ พรรคก้าวไกลได้ทั้งหมด 151 เก้าอี้ (ตามมาด้วยพรรคเพื่อไทยที่ 141 เก้าอี้) โดยที่พรรคก้าวไกลชนะที่นั่งของ สส.เขตขาดลอยในกทม. (32 เขตจากทั้งหมด 33 เขต) ภาคกลาง และภาคเหนือ

ในขั้นตอนถัดไป โดยที่ผลเลือกตั้งเป็นทางการจะประกาศภายใน 60 วัน (วันที่ 13 ก.ค. 2023) และตามกำหนดการ การเปิดสภาแรกจะมีขึ้นภายใน 15 วัน (ช่วงต้นเดือนส.ค.) เพื่อที่จะคัดเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นประธานสส.จะกำหนดวันประชุมรัฐสภาเพื่อลงมตินายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นจะมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีภายในเดือนส.ค.   

พรรคก้าวไกลน่าจะเป็นแกนนำรัฐบาล โดยที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้นำพรรคได้ประกาศว่า พร้อมที่จะจัดตั้งรัฐบาลกับทุกพรรค ยกเว้น พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้คะแนนเป็นอันดับสองกล่าวว่า ยอมรับกับผลการเลือกตั้งและยินดีที่จะให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

หน้าตาของพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นเช่นไร พิจารณาจากจำนวนที่นั่งที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยรวมกัน จำนวนที่นั่งจะอยู่ที่ 292 ที่นั่ง หรือประมาณ 58% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด 500 ที่นั่งในสภาล่าง แต่เนื่องด้วยในกระบวนการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องอาศัยเสียงของวุฒิสภา (250 ที่นั่ง) หมายความว่าอาจจะต้องมีการรวบพรรคเล็กๆ เข้ามาให้ได้เสียงอย่างน้อย 37x เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศ

ณ จุดนี้ ตลาดถือว่าเป็นสัญญาณทางการเมืองที่ดี ด้วยความหวังว่าการเมืองไทยก้าวเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยเต็มใบ 

นโยบายหลักของพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย 9 เสาหลัก ได้แก่

• ประชาธิปไตยเต็มใบ
• สวัสดิการครบวงจร
• จังหวัดจัดการตัวเอง
• ราชการเพื่อราษฎร
• ปฏิวัติการศึกษา
• เกษตรก้าวหน้า
• สิ่งแวดล้อมยั่งยืน
• สุขภาพดีทั้งกายใจ
• เศรษฐกิจโตเพื่อทุกคน