เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (2 มิ.ย.66) โดยดัชนีนิกเคอิปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ทศวรรษ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 36 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้และปรับลดการใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นเวลา 2 ปี และขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้ต่อไป และส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางไม่รีบเร่งที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น
โดยหุ้น SoftBank Group Corp เพิ่มขึ้น 4.3% ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า หน่วยชิปของบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ที่เฟื่องฟู T&D Holdings, Inc พุ่งขึ้น 4.28% ซึ่งเป็นผู้นำบริษัทประกันที่สูงขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงของหายนะทางการเงินจากการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ หายไป
ดัชนีนิกเคอิสูงขึ้น 1.21% ที่ระดับ 31,384.93 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2533 Topix เพิ่มขึ้น 1.55% ที่ระดับ 2,182.70 จุด
ขณะที่ ดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐฯ ปิดที่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 หลังจากข้อมูลตลาดแรงงานที่ฟื้นตัว ได้เสริมให้เกิดการมองโลกในแง่ดีว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถนำพาเศรษฐกิจไปสู่ภาวะอ่อนตัวได้
Kazuo Ueda ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น กล่าวกับฝ่ายนิติบัญญัติว่า ธนาคารกลางไม่มีกรอบเวลาสำหรับการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2%
Maki Sawada นักยุทธศาสตร์จาก Nomura Securities กล่าวว่า “แม้ว่า Nikkei จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่ผู้ที่ลดลงในตลาด Prime มีมากกว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ในการไต่ระดับของ Nikkei ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นได้เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่า ดัชนีกำลังถูกซื้อในวงกว้างมากขึ้น”
ที่มา: รอยเตอร์