2023 – The Rise of Asia |
INVESTMENT STRATEGY
BBLAM X Pictet Asset Management
“หุ้นกลุ่ม “Magnificient Seven” ทำผลตอบแทนได้ถึง 68% เมื่อเทียบกับหุ้นทั้งหมดที่เหลือใน S&P500 ที่ทำผลตอบแทนได้เพียง 6%”
ใน Global market overview ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทาง Pictet Asset Management ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนหลักของ B-SIP และ B-PREMIUM พูดถึงภาพรวมของการลงทุนว่า ตลาดหุ้นโดยรวมปีนี้ให้ผลตอบแทน 18% โดยได้รับแรงผลักดันจากการประกาศผลการดำเนินที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน การคลายความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
สำหรับในตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้ว ตลาดสหรัฐฯ มีผลประกอบการดีที่สุด ด้วยแรงสนับสนุนจากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 2 ทำให้ Down Jones blue chip index เป็นบวกติดต่อกัน 13 วัน ซึ่งครั้งหลังสุดที่ได้เห็นการบวกติดต่อกันแบบนี้ก็ปี 1987
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในเดือนที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงาน อันเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันสู่ตลาดโลกปรับลดลงสวนทางกับช่วงปลายปีที่จะมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มไประดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022
แต่เมื่อดูผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี จะเห็นว่าหุ้นสหรัฐฯ กลุ่ม Technology and Communication Services ยังให้ผลตอบแทนดีที่สุด และเป็นกลุ่มที่มีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนมากที่สุดด้วย
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เป็นอีกครั้งของ S&P500 ตั้งแต่ปี 1980 ที่การปรับขึ้นของดัชนีเกิดจากหุ้นไม่กี่ตัว ซึ่งครั้งนี้มาจากหุ้นกลุ่ม “Magnificient Seven” ประกอบด้วย Alphabet, Amazon, Apple, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla ซึ่งหุ้น 7 ตัวนี้ทำผลตอบแทนได้ถึง 68% เมื่อเทียบกับหุ้นทั้งหมดที่เหลือในดัชนีที่ทำผลตอบแทนได้เพียง 6% ตรงนี้เองผู้จัดการกองทุนจาก Pictet มองว่า ในอดีตที่ผ่านมา ตลาดมักจะเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับกรณีนี้
สำหรับตลาดตราสารหนี้ ผลจากการที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกไม่ได้เป็นอย่างที่กลัวกันมากนักทำให้ความเชื่อมั่นลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยเฉพาะให้ความสนใจกับ High Yield Debt ที่มากกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหุ้นกู้เอกชนประเภท Investment grade
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเองและเงินเยนก็ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ขณะที่ พันธบัตรรัฐบาล yield เพิ่มขึ้นแต่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี เป็นผลจาก BOJ เดินหน้าปรับแผนการควบคลุมเส้นอัตราผลตอบแทน ซึ่งเป็นขั้นแรกสู่การปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติ
ตลาดหุ้นกลุ่ม Emerging Market
ตลาด Emerging Market ได้รับประโยชน์จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ประกอบกับการขยายตัวของระดับหนี้เพิ่มขึ้น 3% ในเดือนที่แล้ว ทำให้ตลาดโตได้ 10% ทั้งนี้คาดว่าในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา หรือบางประเทศทางเอเชีย ธนาคารกลางอาจจะปรับใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น โดยที่ผ่านมาก็จะเห็นธนาคารกลางซิลีปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 100 basis point ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาด
ทองคำ
เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับเพิ่มสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากที่ตลาดคาดว่า ธนาคารสหรัฐฯ จะไม่ปรับดอกเบี้ยขึ้นรุนแรงเหมือนช่วงก่อน
BBLAM แนะนำกองทุน
กองทุนลงทุนตราสารหนี้เน้นยืดหยุ่น : B-DYNAMIC BOND และกองทุนลดหย่อนภาษี : B-DYNAMICRMF และ B-DYNAMICSSF
กองทุนลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น : B-NIPPON
กองทุนลงทุนอินเดีย : B-BHARATA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-INDIAMRMF
กองทุนลงทุนในเทคโนโลยี แต่พยายามเฟ้นหาหุ้นเทคฯ พื้นฐานดี มูลค่ายังน่าลงทุน : B-INNOTECH หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-INNOTECHRMF และ B-INNOTECHSSF
กองทุนลงทุนเน้นเทรนด์ที่จะมาในอนาคต เช่น AI : B-FUTURE หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-FUTURERMF และ B-FUTURESSF