เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า UBS Group วางแผนลดตำแหน่งงานในสวิตเซอร์แลนด์ 3,000 ตำแหน่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นับเป็นการนับเสนอให้เห็นภาพของการบรรลุแผนในการลดต้นทุนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ได้อย่างไร หลังจากเข้าควบรวมกิจการ Credit Suisse โดย UBS ยืนยันว่าจะคงธนาคารในประเทศของ Credit Suisse ไว้
เซอร์จิโอ เออร์มอตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UBS กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การวิเคราะห์ของเราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การบูรณาการอย่างสมบูรณ์เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับ UBS ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา และเศรษฐกิจของสวิส”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UBS เขียนในบันทึกถึงพนักงานว่า ตำแหน่งงานจะลดลงราว 1,000 ตำแหน่ง เป็นผลมาจากการควบรวม Credit Suisse ในขณะที่อีก 2,000 ตำแหน่ง เป็นผลมาจากความจำเป็นในการปรับโครงสร้าง Credit Suisse อย่างลึกซึ้ง
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของ UBS เพิ่มขึ้น 5% ในการซื้อขายช่วงเช้า (31 ส.ค.) ซึ่งแตะระดับสูงสุดที่ไม่เคยพบเห็นมาตั้งแต่ปี 2551
ซึ่ง UBS คาดการณ์ว่าจะประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2569 เปรียบเทียบกับประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 8 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2570 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการลดจำนวนพนักงาน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา Credit Suisse รายงานสินทรัพย์สุทธิไหลออก 3.9 พันล้านฟรังก์สวิส หรือราว 4.44 หมื่นล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งตอกย้ำว่า การช่วยเหลือล้มเหลวในการควบคุมการสูญเสียความมั่นใจ แต่ UBS กล่าวว่า การไหลออกเกิดขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและกลับมาเป็นบวกในเดือนมิถุนายน
ขณะที่ การบริหารความมั่งคั่งทั่วโลกของ UBS รายงานเงินใหม่สุทธิ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดในไตรมาสที่ 2 ในรอบกว่าทศวรรษ
ในแง่หนึ่งนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า UBS เข้าซื้อกิจการ Credit Suisse ซึ่งมีมูลค่าเพียง 3 พันล้านฟรังก์สวิส ในขณะที่ได้รับฐานสินทรัพย์ขนาดใหญ่ ความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ดี และพนักงานที่มีความสามารถ ในเวลาเดียวกันนักวิเคราะห์เตือนว่าความซับซ้อนและความเร่งรีบของข้อตกลงนำมาซึ่งความเสี่ยงในการดำเนินการอย่างมาก เนื่องจาก UBS ต้องลดพนักงานลงอย่างมาก ลดขนาดการดำเนินงานด้านวาณิชธนกิจของ Credit Suisse และจัดการการไหลออกในขณะที่ลูกค้าพยายามกระจายความเสี่ยง
ที่มา: รอยเตอร์