UN แนะรัฐบาลทั่วโลกจำกัดการใช้ ‘เครื่องมือเอไอ’ ในห้องเรียน

UN แนะรัฐบาลทั่วโลกจำกัดการใช้ ‘เครื่องมือเอไอ’ ในห้องเรียน

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องรัฐบาลทั่วโลกกำหนดแนวทางควบคุมการนำเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เช่น ChatGPT มาใช้ในห้องเรียน และควรจำกัดให้ใช้งานได้เฉพาะเด็กโตเท่านั้น

องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เผยแพร่คำแนะนำถึงรัฐบาลทั่วโลกในวันนี้ (7 ก.ย.) โดยเตือนว่า ภาครัฐ “ยังไม่มีความพร้อมเพียงพอ” ที่จะรับมือผลกระทบในแง่จริยธรรมจากการนำเครื่องมือเอไอไปใช้ในโรงเรียน

ยูเนสโก ชี้ว่า การพึ่งพาโปรแกรมเหล่านี้มากกว่าครูผู้สอนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาวะทางอารมณ์ของเด็ก และทำให้พวกเขาสุ่มเสี่ยงต่อการถูกครอบงำ (manipulation)

“Generative AI อาจเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนามนุษย์ แต่ก็สามารถก่ออันตรายและสร้างอคติได้เช่นกัน” ออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ ยูเนสโก ระบุ

“เราไม่สามารถบูรณาการเอไอเข้ากับการศึกษาได้โดยปราศจากการมีส่วนร่วมทางสังคม และภาครัฐจำเป็นจะต้องออกมาตรการปกป้องและกฎระเบียบที่เหมาะสม”

เครื่องมือไอเอเหล่านี้กลายเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามทั่วโลกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว หลังจากบริษัท Open AI ของสหรัฐฯ ได้เปิดตัว ChatGPT ซึ่งสามารถช่วยแต่งบทความ บทกวี หรือแม้กระทั่งสนทนาโต้ตอบกับมนุษย์อย่างเป็นธรรมชาติได้ด้วยการป้อนข้อมูลสั้นๆ

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการเตือนว่า เครื่องมือเอไอเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการคัดลอกผลงาน (plagiarism) และเอื้อให้เกิดการโกงข้อสอบตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัย

ยูเนสโก ยอมรับว่า เครื่องมือเอไออาจเป็นประโยชน์ต่อเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หรือทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ช่วยวิจัยได้ แต่จำเป็นที่ครู ผู้เรียน และนักวิจัยจะต้องร่วมกันออกแบบมัน และมีการควบคุมที่ดีจากภาครัฐ

ทั้งนี้ ยูเนสโกไม่ได้เสนออายุขั้นต่ำสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่จะใช้เครื่องมือเอไอ แต่มีการอ้างไปถึง ChatGPT ซึ่งกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ใช้งานเอาไว้ที่ 13 ปี

“นักวิจารณ์หลายคนมองว่า ช่วงอายุดังกล่าวก็ยังถือว่าเด็กเกินไป และมีการเสนอให้ออกกฎหมายเพิ่มอายุขั้นต่ำเป็น 16 ปี” ยูเนสโก ระบุ

ที่มา: เอเอฟพี