เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Citigroup Inc กล่าวว่า บริษัทได้ตกลงที่จะขายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจบริหารความมั่งคั่งผู้บริโภคจีน ซึ่งรวมถึงลูกค้า สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) และเงินฝาก ให้กับธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ที่มุ่งเน้นตลาดในเอเชีย
ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมเงินฝากและ AUM การลงทุนทั้งหมดประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะปิดตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยรายละเอียดทางการเงินของธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้รับการเปิดเผย
Citigroup ระบุในแถลงการณ์ว่า “การประกาศในวันนี้ทำให้ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งผู้บริโภคจีนของ Citigroup ในประเทศจีนค่อย ๆ ยุติลง ซึ่งได้ประกาศไปเมื่อเดือนธันวาคม 2565”
Citigroup ได้ประกาศแผนการออกจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งผู้บริโภคจีนเป็นครั้งแรกในเดือนเมษายน 2564 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงกลยุทธ์ระดับโลก ธุรกิจธนาคารเพื่อผู้บริโภคให้บริการลูกค้ารายใหญ่เป็นหลักด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝาก กองทุน และผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้างเป็นโครงสร้าง
รอยเตอร์รายงานครั้งแรกเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า HSBC เตรียมเข้าซื้อธุรกิจบริหารความมั่งคั่งผู้บริโภคจีนของ Citigroup ซึ่งเป็นการช่วยส่งเสริมธุรกิจของธนาคารในลอนดอน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ทั้งนี้ การเข้าซื้อพอร์ตโฟลิโอดังกล่าวจะช่วยให้ HSBC ขยายธุรกิจในจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของบริษัท เนื่องจากให้คำมั่นว่าจะออกจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีกำไรน้อย เพื่อมุ่งเน้นไปที่แหล่งสร้างรายได้หลักในเอเชีย
HSBC ระบุเพิ่มเติมว่า ข้อตกลงกับ HSBC ไม่รวมถึงธุรกิจสถาบันของ Citi และจะยังคงตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวจีนที่มีฐานะมั่งคั่งสูงเป็นพิเศษ ผ่านทางศูนย์กลางความมั่งคั่งระดับภูมิภาคในสิงคโปร์และฮ่องกง
นับตั้งแต่ประกาศความตั้งใจที่จะออกจากระบบคอนซูเมอร์แบงก์ใน 14 ตลาดในเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และเม็กซิโก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงกลยุทธ์ ขณะนี้ ซิตี้ได้ปิดการขายใน 8 ตลาดแล้ว นอกเหนือจากข้อตกลงด้านการธนาคารเพื่อผู้บริโภคในจีนแล้ว Citigroup ยังวางแผนที่จะขายธุรกิจผู้บริโภคในอินโดนีเซียให้เสร็จสิ้นภายในปี 2566
ที่มา: รอยเตอร์