4 บริษัทเทค “Microsoft-Alphabet-Amazon-Meta” ส่งสัญญาณผลประกอบการสดใส ลุ้นรายได้ไตรมาส 3/2566 โตแรงสุดในรอบปี หลังธุรกิจซอฟต์แวร์-โฆษณาฟื้นตัว
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า รายได้ไตรมาส 3/2566 ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ไมโครซอฟท์ (Microsoft), อัลฟ่าเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google), แอมะซอน (Amazon) และเมตา แพลตฟอร์ม (Meta Platforms) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) มีแนวโน้มที่จะเติบโตมากที่สุดในรอบปี
เนื่องจากธุรกิจดั้งเดิม อย่างซอฟต์แวร์ที่ใช้ในองค์กรและโฆษณาดิจิทัลเริ่มฟื้นตัวจากการที่หลายๆ บริษัทกลับมาทุ่มงบฯ ในส่วนนี้มากขึ้น หลังจากชะลอการลงทุนกันไปพักใหญ่ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนก็ตาม
รายงานข่าว ระบุด้วยว่า การฟื้นตัวของธุรกิจซอฟต์แวร์ที่ใช้ในองค์กรและโฆษณาดิจิทัล ทำให้ราคาหุ้นของทั้ง 4 บริษัทในปีนี้พุ่งสูงเป็นอย่างมาก เช่น Microsoft ที่ 36% และ Meta ที่ 157% ซึ่งส่งผลต่อมูลค่าตลาดรวมที่เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 200 ล้านล้านบาท)
นอกจากนี้ ในเดือนที่ผ่านมา บริษัทวิจัยและการลงทุนสื่อ Magna ได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของการลงทุนด้านโฆษณาในสหรัฐฯ ประจำปี 2566 เป็น 5.2% จาก 4.2% และคาดว่า ยอดขายโฆษณาดิจิทัลจะเพิ่มขึ้น 9.6% จากปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีผลต่อผลประกอบการของกลุ่มบิ๊กเทค ไม่ได้มีเพียงรายได้จากธุรกิจดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมีทิศทางของการพัฒนาและการประยุกต์ใช้ AI ทางธุรกิจด้วย โดย RBC Capital Market สถาบันการเงินระดับโลก ประมาณการว่า Microsoft จะมีรายรับมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) จากการพัฒนา Generative AI และบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของตนเองในปีงบประมาณนี้
นายริชี จูลาเรีย (Rishi Jaluria) นักวิเคราะห์ของ RBC Capital Market กล่าวว่า การลงทุนด้าน AI เช่น การวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และการซื้อชิปเซตราคาแพง อาจส่งผลกระทบต่อกำไรในระยะสั้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นไปถึงปี 2568 เนื่องจากบริษัทต่างๆ ยังพัฒนาโมเดล AI ของตนเองต่อไป
ทั้งนี้ Microsoft มีแนวโน้มที่จะรายงานรายรับในไตรมาสแรก ตามปีงบประมาณ 2567 เพิ่มขึ้นเกือบ 9% เพราะได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งในธุรกิจซอฟต์แวร์ที่ใช้ในองค์กร แต่คาดว่าค่าใช้จ่ายของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 8.4% ซึ่งมากที่สุดในรอบปี
ส่วน Alphabet คาดว่า จะมียอดขายรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งเป็นรายได้จากบริการของ Google รวมถึงรายได้จากยูทูบ (YouTube) บริการเสิร์ชเอ็นจิ้น และการขายแอปพลิเคชั่น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.5%
ในขณะที่ Meta คาดว่ารายได้รายไตรมาสจะเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งในห้า เนื่องจากรับอานิสงส์จากยอดขายโฆษณาดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นก่อนเทศกาลช็อปปิ้งช่วงวันหยุด ซึ่งมากที่สุดในรอบ 2 ปี
ที่มา: รอยเตอร์