ราคาทอง พุ่งสูงสุดรอบ 6 เดือน แรงหนุนดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าและคาดเฟดยุติขึ้นดอกเบี้ย นักวิเคราะห์คาด Gold Spot อาจขยายราคาขึ้นในช่วง 2,026-2,032 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากได้ทะลุแนวต้าน 1,999 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในวันจันทร์ (27 พ.ย.2566) โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
โดย Gold Spot เพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 2,010.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (เมื่อเวลา 14.58 น.) หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ราคา Gold Futures ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ 2,011.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ไคล์ ร็อดดา นักวิเคราะห์ตลาดการเงินของ Capital.com กล่าวว่า “สิ่งที่ขับเคลื่อนทองคำในขณะนี้ คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เนื่องจากข้อมูลอ่อนตัวล่าสุด ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาจากสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ทั้งในด้านการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ จะสร้างหรือทำลายกรณีที่ทองคำยังคงอยู่เหนือ 2,000 ดอลลาร์”
ดัชนีดอลลาร์ขยับลง 0.1% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่แตะระดับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ
ขณะนี้ ตลาดติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีกำหนดรายงานในวันพุธ (29 พ.ย.) และดัชนีราคา PCE ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดต้องการ ในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.)
ขณะที่ ข้อมูลล่าสุดที่แสดงสัญญาณการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ได้เพิ่มความคาดหวังว่าเฟดจะเริ่มผ่อนคลายเงื่อนไขทางการเงินเร็วกว่าที่คาดไว้ ผู้ค้าคาดหวังอย่างกว้างขวางว่า เฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ในขณะที่มีโอกาสประมาณ 60% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมปี 2567 ตามข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคของ Reuters Wang Tao ระบุว่า Gold Spot อาจขยายราคาขึ้นในช่วง 2,026-2,032 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากได้ทะลุแนวต้านที่ 1,999 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว
สำหรับราคาสปอตเงินเพิ่มขึ้น 1.4% สู่ 24.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแพลทินัมเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ 932.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พัลเลเดียมเพิ่มขึ้น 0.6% สู่ 1,075.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ที่มา: รอยเตอร์