“สิงคโปร์-ซูริก” รั้งเบอร์ 1 เมืองที่แพงที่สุดในโลก ปี 2566 โดยเฉลี่ยแล้ว ราคาได้เพิ่มขึ้น 7.4%เมื่อเทียบเป็นรายปีตามเงื่อนไขสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับสินค้าและบริการที่ใช้กันทั่วไปมากกว่า 200 รายการ ทั้งนี้ EIU เตือนค่าใช้จ่ายทั่วโลก-วิกฤติค่าครองชีพยังไม่สิ้นสุด
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Economist Intelligence Unit (EIU) รายงานว่า สิงคโปร์และซูริก รั้งอันดับเมืองที่แพงที่สุดในโลกในปี 2566 ตามมาด้วยเจนีวา นิวยอร์ก และฮ่องกง พร้อมเตือนว่าค่าใช้จ่ายทั่วโลก วิกฤติการดำรงชีวิตยังไม่สิ้นสุด
โดยเฉลี่ยแล้ว ราคาได้เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีตามเงื่อนไขสกุลเงินท้องถิ่น สำหรับสินค้าและบริการที่ใช้กันทั่วไปมากกว่า 200 รายการ ลดลงจากสถิติที่เพิ่มขึ้น 8.1% ในปี 2565 แต่ยังคงสูงกว่าแนวโน้มในปี 2560-2564 อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ สิงคโปร์ กลับมาครองตำแหน่งสูงสุดเป็นครั้งที่ 9 ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากระดับราคาที่สูงในหลายประเภท โดยมีราคาค่าขนส่งสูงที่สุดในโลก เนื่องจากมีการควบคุมหมายเลขรถยนต์ของรัฐบาลอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสินค้าเสื้อผ้า ของชำ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แพงที่สุดอีกด้วย
ขณะที่ การเพิ่มขึ้นของ ซูริก สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฟรังก์สวิส และราคาของชำ ของใช้ในครัวเรือน และกิจกรรมสันทนาการที่สูงขึ้น ด้าน เจนีวา และ นิวยอร์ก อยู่อันดับ 3 เท่ากัน ขณะที่ ฮ่องกง อยู่อันดับ 5 และ ลอสแองเจลิส อยู่อันดับ 6
ทั้งนี้ เอเชียยังคงเห็นการเพิ่มขึ้นของราคาโดยเฉลี่ยค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ เมืองต่างๆ ในจีนร่วงหล่นลงมาในการจัดอันดับ โดยมี 4 เมือง ได้แก่ หนานจิง อู๋ซี ต้าเหลียน และปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอันดับลดลงมากที่สุดในปี 2566 เช่นเดียวกับโอซาก้าและโตเกียวในญี่ปุ่น
ที่มา: รอยเตอร์ / การเงินธนาคาร