นายธนาคารยุโรปวิกฤตหนัก

นายธนาคารยุโรปวิกฤตหนัก

สถานการณ์ที่ซับซ้อนของภาคเศรษฐกิจโลกและภูมิศาสตร์การเมือง ส่งผลให้เกิดปัจจัยเชิงลบต่อผู้ที่ทำงานเป็นนายธนาคารทั้งในลอนดอน ประเทศอังกฤษ รวมไปถึงเขตการเงินอย่างแมนฮัตตัน ประเทศเยอรมนี

แม้แต่นายธนาคารชั้นนำขององค์กรก็ยังดิ้นรนหาทางสร้างรายได้ให้กับบริษัท และดึงธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินขึ้นมาจากสภาวะตกต่ำในขณะนี้ ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ได้สัมภาษณ์ผู้คนในหลายตำแหน่งหน้าที่ในองค์กร ทั้งผู้บริหารด้านการเงิน ที่ปรึกษา และผู้จัดหางาน โดยทั้งหมดมองว่าจะเห็นธุรกิจที่ซบเซา ซึ่งหมายถึงเงินโบนัสที่จะลดลงตาม และการปลดพนักงานออกจำนวนมากในปี 2567

ฟาบริซิโอ แคมเปลลี หัวหน้าธนาคารพาณิชย์และการลงทุนจากธนาคารดอยซ์แบงก์ กล่าวว่า ปี 2566 จะเป็นหนึ่งในปีที่มีการผลิตเม็ดเงินจากการทำงานองค์กรน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Dealogic ระบุว่า มูลค่าของเม็ดเงินจากการทำงานองค์กรทั่วโลกจำนวน 2.669 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นมูลค่าที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548 ในขณะที่ มูลค่าจากบริษัทฝั่งยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาจำนวน 6.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นมูลค่าที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2547

นอกจากนั้นแล้ว ธนาคารต่างๆ ยังมีความกังวลว่า ผลกำไรจากการทำงานจะได้รับแรงกดดันจากข้อบังคับทางการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดย รอนนี่ โอเคลลี จากบริษัทให้คำปรึกษาโอลิเวอร์ วายแมน ดำรงตำแหน่งหุ้นส่วนและหัวหน้าบริษัทและสถาบันการธนาคารแห่งยุโรป กล่าวว่า “โดยรวมแล้ว ภาพรวมรายได้ของธนาคารในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะมีผลประกอบการที่ไม่เป็นบวกหรือลบ”

ในด้านความกังวลของการลดอัตราการจ้างงาน ธนาคารต่างๆ กำลังพยายามตัดค่าใช้จ่ายเพื่อให้อยู่รอดจากเศรษฐกิจขาลง ซึ่งหมายถึงการลดอัตราการจ้างพนักงานของบริษัท โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการพัฒนา กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มหดตัวลงจาก 2.9% เหลือ 2.7% ในปี 2567 ก่อนจะมีแนวโน้มดีขึ้นในปี 2568

ด้าน รอนนี่ โอเคลลี กล่าวว่า การลดอัตราการจ้างงานเป็นวิธีการหลักในการทำให้ธนาคารต่างๆ สามารถกลับไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยเหมือนเดิมได้ ซึ่งการให้ความเห็นดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับการรายงานข่าวที่ระบุว่าธนาคารบาร์เคลย์สกำลังพิจารณาการเลิกจ้างบุคลากรหลังบ้านจำนวน 2,000 คน ซึ่งเพิ่มจากการเลิกจ้างงานในบริษัทลูกทั่วสหราชอาณาจักร ในขณะเดียวกันคู่แข่งอย่างธนาคารลอยด์ก็กำลังพิจารณาการเลิกจ้างงานบุคลากรจำนวน 2,500 คน เช่นเดียวกัน

ในส่วนของเงินโบนัสประจำปีที่จะได้น้อยลงนั้น ก็มาจากการที่มีจำนวนงานให้ทำน้อยลง โดยจะมีบางธนาคารที่เลือกจะจ่ายโบนัสเท่าเดิมเพื่อรักษาพนักงานที่มีความสามารถเอาไว้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ปัจจัยสุดท้ายก็คือเรื่องของความผันผวน ซึ่งสงครามระหว่างประเทศยูเครน กับรัสเซีย รวมไปถึงสงครามในประเทศตะวันออกกลาง และยังมีความตึงเครียดระหว่างอเมริกาและจีน โดยความขัดแย้งทั้งหลายเหล่านี้จะส่งผลให้การลงทุนชะลอตัวลง และเลื่อนระยะการรีไฟแนนซ์ออกไป

ที่มา: รอยเตอร์