คะแนนนิยมของคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ลดลงเหลือร้อยละ 17.1 ในเดือนธันวาคม ต่ำที่สุดนับตั้งแต่พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี กลับมาบริหารประเทศอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2012 หลังเหตุอื้อฉาวเรื่องการเงินและสินบนของคนในรัฐบาล จนต้องปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่
ผลสำรวจความเห็นประชาชนที่จัดทำ โดยสำนักข่าวจิจิ เพรส ระหว่างวันศุกร์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา และเผยแพร่ผลการสำรวจในวันนี้พบว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลงเหลือร้อยละ 17.1 ในเดือนธันวาคม ลดลง 4.2 จุดเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อเดือนพฤศจิกายน และยังเป็นครั้งแรกที่คะแนนนิยมลดลงไปต่ำกว่าร้อยละ 20 นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2009 โดยในตอนนั้นรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทาโร อาโสะ ได้รับคะแนนสนับสนุนเพียงร้อยละ 13.4
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นายกรัฐมนตรี คิชิดะ ต้องขยับปรับคณะรัฐมนตรีเป็นรอบที่ 3 ภายในระยะเวลา 16 เดือน หลังจากเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่น นายอิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่รัฐมนตรี 3 คน ลาออกไปก่อนหน้านี้แล้วจากกรณีอื้อฉาวพัวพันกับการทุจริตภายในพรรคแอลดีพีผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทน คือ โยชิมาสะฮายาชิ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ
ส่วนรัฐมนตรีอีก 3 คนที่ลาออกไป ได้แก่ ยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม, จุนจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกิจการภายในและการสื่อสาร และ อิชิโร มิยาชิตะ รัฐมนตรีเกษตร ป่าไม้และประมง โดย เคน ไซโตะ อดีตรัฐมนตรียุติธรรม จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม, ทาเคอากิ มัตสึโมโต เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกิจการภายในและการสื่อสาร ส่วน เทตสึชิ ซากาโมโต อดีตรัฐมนตรีการฟื้นฟูภูมิภาค จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตร ป่าไม้และประมง
นอกจากนี้ ยังมีรัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างๆ อีก 5 คน ที่ลาออกจากตำแหน่ง รวมถึง ฮางิอูดะ โคอิจิ หัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ก็จะลาออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน
สำหรับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเงินสินบนที่ว่านี้ เกี่ยวข้องกับการรับเงินสินบนซึ่งมาจากจำหน่ายบัตรงานเลี้ยงระดมทุนของพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี พรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งหลายคนจำหน่ายบัตรเกินโควตาของตนเอง เงินสินบนที่เป็นปัญหานี้มีจำนวนกว่า 500 ล้านเยน (ราว 124 ล้านบาท) จากการสอบสวนของอัยการพบว่า มีนักการเมืองในพรรคแอลดีพี เกี่ยวข้องกับกรณีเงินจำนวนนี้กว่า 10 คน
ทั้งนี้ รัฐมนตรีทั้ง 4 คนที่ลาออกจากตำแหน่ง อยู่ในกลุ่มการเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโสะอาเบะ ผู้ล่วงลับเป็นผู้นำ กลุ่มการเมืองกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อกลุ่มอาเบะ
ที่มา: เอเอฟพี / รอยเตอร์ส / เอ็นเอชเค