BBLAM Weekly Investment Insights 2-5 มกราคม 2024

BBLAM Weekly Investment Insights 2-5 มกราคม 2024

Weekly Highlight

Economic Outlook 2024

By BBLAM

– Growth Driver ของเศรษฐกิจโลกในปี 2024 น่าจะเปลี่ยนไป โดยเราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการส่งออก ที่จะมาช่วย Balance กับภาคบริการที่เป็น Growth Driver หลัก เมื่อปี 2020-2022 –

Investment Insights : Investing in innovation 2024

เปิดเทรนด์ Healthtech ปี 2024 ค่ารักษาแพงแค่ไหนก็ไม่กลัว!

5 เทรนด์เทคโนโลยีปี 2024 ที่นักลงทุนต้องรู้

Big Tech เริ่มฟื้น เป็นโอกาส หรือความเสี่ยง

By BBLAM

5 เทคโนโลยีที่พลาดไม่ได้! สำหรับการลงทุน

By BBLAM

Investment Insights : Investing in Asia 2024

The Land of Rising Stocks: Investing in Japan

BBLAM X Nomura Asset Management

Asia 2024 – Where will the Dragon Soar

BBLAM X Invesco

Finding Opportunities in the World’s Leading Growth Market amidst Global Uncertainties

BBLAM X Nippon Life india Asset Management

BBLAM X Kotak Mahindra Asset Management

China’s Innovation Pathway

BBLAM X Allianz Global Investors

Where will the sun rise in 2024?

By BBLAM

Finding Investment Opportunities in Asian Equities

By BBLAM

Sustainable Brand 2024 – BBLAM

Sustainable Concept กับการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน

By BBLAM

คุณรุ่งนภา เสถียรนุกูล ผู้จัดการกองทุน จาก BBLAM สัปดาห์นี้มาพูดถึงความหมายของ Sustainable Concept โดยเริ่มต้นจาก ความยั่งยืน (Sustainable) กับการดำเนินธุรกิจ คือ การที่บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม หรือทรัพยากรธรรมชาติ และยังสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาวได้โดยไม่สร้างผลกระทบต่อรุ่นต่อไป การประยุกต์ใช้หลักการยั่งยืนในบริษัทเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาว บริษัทสามารถประยุกต์ใช้หลักการ “ความยั่งยืน” ในหลายด้าน เช่น

  • การบริหารจัดการทรัพยากร บริษัทควรจัดการทรัพยากร ทั้งภายในและภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่เน้นผลกำไรเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และพยายามลดผลกระทบ เช่น การลดการใช้พลังงาน หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • การสร้างผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ยั่งยืน บริษัทควรพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีระยะเวลาการใช้งานนานและไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัตถุดิบที่มีการทดสอบการรักษาทรัพยากรที่มีความยั่งยืน
  • การสร้างวัฒนธรรมองค์กร บริษัทควรสร้างวัฒนธรรมที่เน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อประสบความสำเร็จในด้านยั่งยืน
  • การรายงานผลการดำเนินการ บริษัทควรรายงานผลการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับหลักการยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ลงทุน ลูกค้า และสังคม แบบโปร่งใสและตรงไปตรงมา
  • ความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทควรเลือกวิธีการทำธุรกิจที่สร้างประโยชน์สู่สังคมและชุมชนในที่ตั้งของบริษัท
  • การบริหารความเสี่ยง บริษัทควรพัฒนาแผนการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต

นอกจากนี้แล้ว บริษัทสามารถที่จะสร้างความยั่งยืน (Sustainable) ในธุรกิจ หรือองค์กร โดยใช้หลัก ESG (Environmental, Social and Governance) เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบัน โดย ESG หมายถึง

  • สิ่งแวดล้อม (Environmental) การดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • สังคม (Social) การให้ความสำคัญกับการรับผิดชอบต่อสังคม และการดำเนินธุรกิจอย่างชอบธรรมต่อทุกกลุ่มสังคม
  • การบริหาร (Governance) การบริหารองค์กรอย่างมีความประสิทธิภาพและชอบธรรม โดยให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและควบคุมธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานทางการเงิน

การประยุกต์ใช้หลัก ESG เพื่อสร้างความยั่งยืนสามารถทำได้โดยการตรวจสอบกระบวนการและนโยบายที่มีต่อ ESG ในองค์กร และการเริ่มต้น ด้วยขั้นตอนเหล่านี้

  1. การประเมิน จะต้องเริ่มจากการทำการประเมิน เพื่อทราบกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ESG ในองค์กร โดยจะต้องทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพในแต่ละด้าน (Environmental, Social, Governance) และการวัดผลประสิทธิภาพของกิจกรรมต่างๆ เหล่านั้น
  2. การกำหนดเป้าหมาย เป็นการที่องค์กรกำหนดเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับ ESG ที่ต้องการบรรลุในระยะยาวและระยะสั้น โดยที่เป้าหมายนี้ต้องเป็นไปตามหลัก ESG และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กร
  3. การดำเนินการ องค์กรจะต้องดำเนินการในการปรับปรุงและประยุกต์ใช้นโยบายและแผนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ ESG เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
  4. การรายงาน องค์กรจะต้องสร้างระบบรายงานที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมาย ESG และให้ข้อมูลนี้ถูกตรวจสอบและตรงตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

การเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้ากับกระแส ESG ไม่เพียงแต่ช่วยบริษัทลดความผันผวนทางธุรกิจและเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าและผู้ลงทุนและสร้างความมั่นคงในองค์กรในระยะยาว มีหลายบริษัทที่นำหลักการ ESG มาใช้การพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน ยกตัวอย่าง

  • Apple เป็นตัวอย่างหนึ่งของบริษัทที่มุ่งมั่นในเรื่องของความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม บริษัทได้ตั้งเป้าหมายจะเป็นบริษัท Carbon Neutral ในการดำเนินธุรกิจทั้งหมดในภายในปี 2030 หมายความว่า อุปกรณ์ทุกชิ้นของ Apple ที่วางจำหน่ายจะไม่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ และได้ลงทุนในโครงการสร้างพื้นที่สีเขียวสำหรับการผลิตพลังงานในสหรัฐอเมริกาด้วย บริษัทยังเน้นความเป็นรูปธรรมในกระบวนการผลิตและในการจัดการกับพนักงานและซัพพลายเออร์ของพวกเขาด้วย
  • Unilever เป็นบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมาก บริษัทได้กำหนดเป้าหมายในการลดคาร์บอนในสายการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้า และมีโครงการให้ชุมชนและเกษตรกรในทั่วโลก Microsoft ได้รับความยอมรับในการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม พวกเขามุ่งเน้นในการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาทางสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความเสมอภาคในการเข้าถึงเทคโนโลยีและการศึกษา Amazon มุ่งเน้นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งสินค้าของพวกเขา และได้ประกาศเป้าหมายที่จะใช้พลังงานที่มีการรักษาสิ่งแวดล้อมในการขนส่งทั้งหมดของพวกเขาในอนาคต

นอกเหนือจากระดับองค์กรที่สามารถจะนำเรื่องความยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ ในระดับประเทศก็ให้ความสำคัญและถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยพัฒนาประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ยกตัวอย่าง ประเทศสิงคโปร์ เนื่องด้วยประเทศนี้มีทรัพยากรธรรมชาติที่จำกัด และมีพื้นที่ประเทศจำกัด ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์มองเห็นความสำคัญและมีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ประเทศนี้เป็นหนึ่งในต้นแบบของการพัฒนายั่งยืนในโลก สิงคโปร์ได้มีนโยบายการอนุรักษ์ทรัพยากรที่ทันสมัย โดยเฉพาะการจัดการน้ำและพลังงาน มีโครงการต่าง ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนให้สร้างพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สาธารณะในเมือง นอกจากนี้ การจัดการขยะและการรักษาความสะอาดในสิงคโปร์ ถือเป็นเรื่องสำคัญในการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในเมือง โดยประชากรสิงคโปร์ต่างมีส่วนร่วมในการรักษาความสะอาดและการอนุรักษ์ทรัพยากรผ่านการแยกขยะและการลดการใช้พลาสติก

กระแสการลงทุนโดยการนำหลักการ Sustainable มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการวิเคราะห์หลักทรัพย์เพื่อการลงทุน เป็นแนวทางที่มีแนวคิดที่สำคัญของการลงทุนในโลกยุคปัจจุบัน การลงทุนในหุ้นที่ Sustainable คือ การลงทุนในบริษัทหรือองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยมีการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตัวอย่างบริษัทที่ Sustainable ที่ดี เช่น

  • บริษัทพลังงานทดแทน การลงทุนในบริษัทที่ผลิตหรือพัฒนาพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานลม สามารถช่วยลดการใช้พลังงานที่มาจากแหล่งพลังงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำมันหรือถ่านหิน
  • บริษัทที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม การลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บริษัทที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือมีโครงการเพิ่มการใช้วัสดุ Recycle
  • บริษัทที่สนับสนุนสังคม การลงทุนในบริษัทที่มีโครงการสังคมที่ส่งเสริมความเท่าเทียมและช่วยเสริมสร้างสังคมที่ดีขึ้น เช่น โครงการฝึกงานสำหรับกลุ่มคนที่มีความต้องการพิเศษหรือการสนับสนุนการศึกษาสามารถช่วยสร้างค่าเพิ่มในระดับสังคม
  • บริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ยั่งยืน การลงทุนในบริษัทที่มีนโยบายและกิจกรรมที่สนับสนุนความยั่งยืนในด้านการบริหารจัดการ เช่น การลดการใช้พลังงานหรือการลดการสร้างขยะที่ไม่จำเป็น

การนำหลักการ Sustainable มาใช้ในกระบวนการวิเคราะห์หลักทรัพย์จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการลงทุนที่มีการพิจารณาความยั่งยืนและระมัดระวังต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังส่งเสริมบริษัทให้ปรับเปลี่ยนและปรับปรุงกิจกรรมที่สอดคล้องกับหลักการ Sustainable ขณะเดียวกัน การลงทุนในหุ้นที่มี Sustainable ไม่เพียงแค่ช่วยสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังสามารถสนับสนุนการพัฒนาทางสังคม สิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้ลงทุนและสังคมอย่างยั่งยืนในระยะยาว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.bblam.co.th/bualuang-insights/bblam-investment-insights/2-6-2024