บริษัทวิจัยตลาด โร โมชัน (Rho Motion) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 21% ในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายในจีนที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในปีนี้ แม้ความต้องการในยุโรปจะลดลงก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกอยู่ที่ 1.35 ล้านคันในเดือนก.ค. โดย 0.88 ล้านคันมาจากจีน ซึ่งเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วนยอดขายรถยนต์ PHEV ที่จำหน่ายในจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบรายปี
นายชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการ ฝ่ายข้อมูลของโร โมชัน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ในสหภาพยุโรป (EU) นั้น เอ็มจี มอเตอร์ (MG Motor) ซึ่งเป็นของผู้ผลิตรถยนต์จีน อย่างเอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ป (SAIC Motor Corp) คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ EV จากจีน
นายเลสเตอร์ ระบุว่า เทสลา (Tesla) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ น่าจะได้รับผลกระทบจากภาษีดังกล่าวน้อยกว่า เนื่องจากสามารถผลิตในโรงงานในเยอรมนีได้ ส่วนยักษ์ใหญ่ด้าน EV ของจีน อย่างบีวายดี (BYD) ไม่น่าจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีการดำเนินงานในยุโรปค่อนข้างน้อย
ด้านบีวายดี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ EV รายใหญ่ที่สุดของจีนและของโลก ระบุว่า ยอดขาย BEV และ PHEV ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13% และ 44% ตามลำดับ
ในยุโรป ยอดขายรถ EV ลดลง 7.8% ในเดือนก.ค. ส่วนยอดขายในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 ลดลง 12% ในเยอรมนี ซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดของ EU
ในสหรัฐฯ และแคนาดานั้น ยอดขายรถยนต์ EV เพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนก.ค.
ที่มา: รอยเตอร์