หุ้น ‘อาลีบาบา’ พุ่งทะยานกว่า 5% หลังเข้าโครงการ Stock Connect เชื่อมตลาดหุ้นจีนกับตลาดฮ่องกง เปิดรับเงินนักลงทุนจีนแผ่นดินใหญ่โดยตรงครั้งแรก

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาหุ้นของบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (Alibaba) ทะยานขึ้นไปถึง 5.2% ระหว่างการซื้อขายในวันนี้ (10 ก.ย.) ภายหลังเข้าร่วมในโครงการ Stock Connect ที่เชื่อมตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นในจีนกับตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดทางให้นักลงทุนจีนในจีนสามารถซื้อขายหุ้นอาลีบาบาได้โดยตรงเป็นครั้งแรกในวันนี้

ระหว่างการซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้ “หุ้นอาลีบาบา” ปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 5.2% หรือสูงที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย ณ เวลา 10.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายเต็มวันในช่วง 3 เดือนมานี้

บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ คาดการณ์ว่า การที่หุ้นตัวใหญ่อย่างอาลีบาบาเข้าร่วมโครงการจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมากถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า โดยเฉพาะจากนักลงทุนในจีนที่คาดว่าจะครองสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 10% ในอาลีบาบา ซึ่งยังคาดว่าจะช่วยลดส่วนต่างมูลค่าบริษัท เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง PDD Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์ม “เทมู” (Temu)

ในปีนี้ราคาหุ้นของอาลีบาบาปรับตัวขึ้นไปแล้วถึง 7.5% สวนทางกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในกระดานฮั่งเส็งที่ปรับตัวลง 9% และการเข้าโครงการ Stock Connect ในครั้งนี้ยังเป็นจังหวะที่ดีต่อบริษัท หลังจากเพิ่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 พลาดเป้า เนื่องจากการบริโภคที่อ่อนแรงในจีนยังคงกดดันโมเมนตัมค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ

ทั้งนี้ อาลีบาบาเป็นหุ้นใหญ่เพียงไม่กี่ตัวของจีนที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ Stock Connect ได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงในลักษณะการจดทะเบียนแบบ “ตลาดรอง” (Secondary Listing) โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา อาลีบาบาได้ยกสถานะการจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นการจดทะเบียนตลาดหุ้นหลัก (Dual-primary listing) จึงสามารถเข้าโครงการเชื่อมตลาดหุ้นจีนกับฮ่องกงได้ในที่สุด

ด้านนิกเกอิเอเชียรายงานว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนในจีนเข้าซื้อหุ้นฮ่องกงสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยซื้อสุทธิ 5.91 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านทางโครงการ Stock Connect ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นจีนออกไปแล้ว 6.7 พันล้านหยวน นับตั้งแต่ต้นปีนี้

มอร์แกน สแตนลีย์ ประเมินว่า อาลีบาบาจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาทาง Stock Connect มากถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในช่วง 6 เดือนแรก ขณะที่ โวคอม ซีเคียวริตีส์ ประเมินว่า อาลีบาบาจะช่วยพยุงปริมาณการซื้อขายในตลาดฮ่องกง เนื่องจากเป็นหนึ่งในหุ้นตัวใหญ่ที่สุดของจีนในแง่มูลค่าตลาด

ที่มา: บลูมเบิร์ก