ยอดขาย ‘รถยนต์ไฟฟ้า-ปลั๊กอินไฮบริด’ ทั่วโลกพุ่ง 20% เดือน ส.ค.67 แรงหนุนดีมานด์จีนโตแรง แม้ยอดขายในยุโรปอ่อนแอมากสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Rho Motion บริษัทวิจัยตลาด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วโลกพุ่งขึ้น 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือนสิงหาคม ซึ่งได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ในจีน และแม้ว่ายอดขายในยุโรปลดลง 33% ซึ่งถือเป็นเดือนที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566
Charles Lester ผู้จัดการข้อมูล Rho Motion คาดว่ายอดขายในปี 2567 ในจีน ซึ่งเป็นตลาด EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะเพิ่มขึ้น 1 ใน 3 จากปีก่อน เป็น 10.5 ล้านคัน ในขณะที่ ยอดขายในยุโรปคาดว่าจะใกล้เคียงกับ 3.1 ล้านคันในปีก่อน
ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากผู้บริโภคต้องการจะรอรถรุ่นที่ราคาไม่แพง หรือเลือกใช้รถยนต์ไฮบริด ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายลดแผนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าลง
ข้อมูลจาก Rho Motion ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกอยู่ที่ 1.47 ล้านคันในเดือนสิงหาคม โดยยอดขายในจีนพุ่งขึ้น 42% ในเดือนสิงหาคม และทำสถิติสูงสุดที่มากกว่า 1 ล้านคัน ในขณะที่ ยอดขายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเพิ่มขึ้น 8% อยู่ที่ 0.16 ล้านคัน
ด้านยอดขายในยุโรปตั้งแต่ต้นปีลดลง 4% โดยได้รับผลกระทบจากการลดลง 23% ในเยอรมนีหลังจากที่ลดเงินอุดหนุน
ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีตกลงเมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่จะหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 40% สำหรับบริษัทต่างๆ ที่ขายรถยนต์ไฟฟ้า หลังจากเมื่อปีที่แล้วโครงการอุดหนุนซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียวได้ยุติลงอย่างกะทันหัน
ที่มา: รอยเตอร์