ตลาดโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 9.9 แสนล้านภายในปี พ.ศ. 2570 โดย เบนแอนด์โค บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการระดับโลก มองว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างรวดเร็วส่งผลให้บริษัทและเศรษฐกิจได้รับผลกระทบและต้องปรับตัว
เบนแอนด์โค กล่าวไว้ในรายงานประจำปี ครั้งที่ 5 ว่าด้วยสถานการณ์เทคโนโลยีโลก ที่ได้ถูกเผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่า ตลาดดังกล่าว ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์บริการและฮาร์ดแวร์ที่มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ จะเติบโตทุกปีในอัตรา 40% ถึง 50% จากมูลค่าเดิมของปีที่แล้ว 1.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ตั้งแต่ 7.8 แสนล้าน ถึง 9.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การเติบโตดังกล่าวจะถูกขับเคลื่อนโดยระบบ AI และศูนย์ข้อมูล (data center) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งจะทำหน้าที่ฝึกและปฏิบัติการ AI ดังกล่าว รวมถึงความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทและภาครัฐ นอกจากนี้ เบนแอนด์โคได้เตือนว่า อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจะทำให้ห่วงโซ่อุปทานของส่วนประกอบ รวมถึงชิปที่ใช้ในการให้บริการ เกิดการติดขัด อีกทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และยอดขายที่จะเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้เซมิคอนดักเตอร์ คอมพิวเตอร์ส่วนตัว และโทรศัพท์สมาร์ทโฟน อยู่ในภาวะขาดแคลน
นอกจากนี้ ความต้องการส่วนประกอบชิปในอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น แผงวงจรเบ็ดเสร็จและลิขสิทธิ์ทางปัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่า 30% ในปี พ.ศ. 2569 สร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิต ต้นทุนจัดตั้งศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่อาจเพิ่มขึ้นจากเดิม 1-4 พันล้าน เป็น 1-2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลาห้าปี สืบเนื่องจากความจุที่เพิ่มขึ้นเกินกว่า 1 กิกะวัตต์ จาก 50-200 เมกะวัตต์ในปัจจุบัน
บริษัทต่าง เองก็ได้ขยับตัวออกจากช่วงทดลอง และเริ่มใช้ AI สร้างสรรค์ส่วนต่าง ๆ ในการประกอบธุรกิจของตน และเมื่อคำนึงถึงประเด็นเกี่ยวกับต้นทุนและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลแล้ว มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า บริษัทรวมถึงรัฐบาลของประเทศต่างๆ จะเห็นชอบกับการใช้งาน AI โมเดลเล็กเช่น ChatGPT ซึ่งใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสิทธิภาพสูง
ปัจจุบันประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทุ่มเงินหลายพันล้านเพื่อส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์แบบพึ่งพาตนเอง (Sovereign AI) พร้อมทั้งลงทุนในโครงสร้างคอมพิวเตอร์พื้นฐานของประเทศ รวมถึง AI โมเดลที่ถูกพัฒนาและฝึกฝนในประเทศของตน อย่างไรก็ดี การก่อตั้งระบบนิเวศ AI ให้ประสบความสำเร็จนั้น คงต้องใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมหาศาล
สำหรับ Nvidia ผู้นำตลาด AI ในปัจจุบัน ยังคงเป็นที่น่าจับตามอง บริษัทเริ่มประกอบธุรกิจจากการผลิตชิปสำหรับหน่วยประมวลผลภาพให้แก่อุตสาหกรรมวิดีโอเกม ซึ่งเป็นสื่อบันเทิงที่ต้องการกำลังในการประมวลผลสูง และในปัจจุบัน ชิปดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้เพื่อการฝึกฝนและปฏิบัติการ AI ทำให้ Nvidia ถูกยกระดับขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา
ที่มา: บลูมเบิร์ก