รัฐบาลอังกฤษประกาศในวันนี้ (4 ต.ค.) ว่าจะทยอยจัดสรรงบประมาณสูงถึง 2.17 หมื่นล้านปอนด์ (2.846 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในระยะเวลา 25 ปี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) และเทคโนโลยีไฮโดรเจนในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า อังกฤษตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยระบุว่าเทคโนโลยี CCS จำเป็นต่อการลดการปล่อยมลพิษจากภาคอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูง และยังช่วยสร้างงานอีกด้วย
ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าวงการนี้จะสร้างงานที่มีคุณภาพมากกว่า 4,000 ตำแหน่ง และดึงดูดเงินลงทุนจากภาคเอกชนหลายพันล้านปอนด์เข้าสู่ชุมชนในเมอร์ซีย์ไซด์ (Merseyside) และทีสไซด์ (Teesside) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตในย่านอุตสาหกรรมสำคัญเหล่านี้ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วประเทศ”
รัฐบาลอังกฤษ ระบุว่า ทั้ง 2 โครงการในภาคเหนือของอังกฤษจะมีความสามารถในการดักจับคาร์บอนรวมกันถึง 8.5 ล้านตันต่อปี เทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนนถึง 4 ล้านคัน
หนึ่งในนั้น คือ โครงการไฮเน็ตนอร์ทเวสต์ (HyNet North West) ในเมอร์ซีย์ไซด์ ซึ่งนำโดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่จากอิตาลี อย่างเอนี (Eni) โดยจะมุ่งเน้นการดักจับคาร์บอนจากโรงงานอุตสาหกรรม และกักเก็บไว้ในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่หมดแล้วในทะเลไอริช
นอกจากนั้นยังมีโครงการในทีสไซด์ ที่พัฒนาโดยอีควินอร์ (Equinor) และบีพี (BP) ซึ่งจะกักเก็บคาร์บอนไว้ใต้ทะเลเหนือ
ที่มา: รอยเตอร์