สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หุ้นของ Nvidia พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าบริษัทของผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่รายนี้ กลายเป็นบริษัทแรกในประวัติศาสตร์ที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2
หุ้นของผู้ผลิตชิป AI ยักษ์ใหญ่รายนี้ ปรับตัวพุ่งขึ้น 2.2% ในการซื้อขายวานนี้ หลังบรรดานักลงทุนส่วนใหญ่มีความคาดหวังในทิศทางที่ดีเกี่ยวกับนโยบายลดหย่อนภาษีและกฎระเบียบที่ลดลง จากการที่ทรัมป์ ก้าวขึ้นมาเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ บ่งชี้ว่า ทรัมป์ชนะคะแนนเลือกตั้ง
มูลค่าตลาดของ Nvidia อยู่ที่ระดับ 3.65 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เบียดชนะ Apple ซึ่งเคยทำสถิติมีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ระดับ 3.57 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปได้ ซึ่งในปัจจุบันมูลค่าตลาดของ Apple อยู่ที่ระดับ 3.44 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่คำนวนในดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จากชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้ง เมื่อวันอังคาร
Nvidia กลายเป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์มากที่สุดในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท จากการแข่งขันระหว่าง Microsoft, Alphabet และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ที่เร่งเพิ่มขีดความสามารถในด้านการประมวลผล AI เพื่อครองตลาดเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ โดยหุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปรายนี้ เพิ่มขึ้นไปแล้ว 12% ในเดือนพ.ย.ปีนี้ และมีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในปี 2024
จากการเพิ่มขึ้นดังกล่าวในปีนี้ ทำให้มูลค่าบริษัทของ Nvidia สูงกว่ามูลค่าบริษัทที่รวมกัน ระหว่าง Eli Lilly, Walmart, JPMorgan, Visa, UnitedHealth Group และ Netflix โดยผลสำรวจนักวิเคราะห์ที่ LSEG ได้รวบรวมข้อมูล โดยเฉลี่ยคาดว่า Nvidia จะทำรายได้ไตรมาสล่าสุด เพิ่มขึ้นมากกว่า 80% สู่ระดับ 3.29 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทจะประกาศงบในวันที่ 20 พ.ย. นี้
ทั้งนี้ ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา Nvidia เคยครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะถูก Microsoft และ Apple เบียดแซงไปได้ โดยมูลค่าตลาดของทั้ง 3 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่นี้ มีความสูสีกันมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน มูลค่าตลาดของ Microsoft อยู่ที่ประมาณ 3.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 1.25% ในการซื้อขายวานนี้
ที่มา: รอยเตอร์