ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีแผนเดินทางเยือนอินเดียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เขามีคำสั่งให้รุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2565 โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ชี้ว่า ความพยายามซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ในการกีดกันปูตินออกจากเวทีโลกนั้นกำลังล้มเหลว
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอ็นไอ (ANI) ของอินเดีย ก่อนที่จะยืนยันกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในภายหลังว่า แม้วันเดินทางเพื่อพบปะกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย จะยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ “เรากำลังตั้งตารอวันนั้น”
เปสคอฟ กล่าวว่า “หลังจากที่นายกรัฐมนตรีโมดีเดินทางเยือนรัสเซียถึง 2 ครั้ง ตอนนี้ประธานาธิบดี ปูตินเตรียมเยือนอินเดียแล้ว เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการติดต่อเหล่านี้”
ทั้งนี้ อินเดียและรัสเซียได้จัดการประชุมสุดยอดประจำปี ระหว่างสองผู้นำก่อนที่การรุกรานยูเครนจะเริ่มขึ้น โดยแหล่งข่าวในขณะนั้นเผยว่า ผู้นำอินเดียเลี่ยงที่จะพบปะแบบหน้าต่อหน้าในเดือนธ.ค. 2565 หลังจากที่ปูตินขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการทำสงคราม
โมดียอมรับปูตินและเรียกเขาว่า “เพื่อน” ในการหารือดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเพียง 1 วัน หลังจากที่รัสเซียโจมตีโรงพยาบาลเด็กในกรุงเคียฟด้วยขีปนาวุธจนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับนานาประเทศ
นอกจากนี้ การที่โมดีพร้อมพบปะกับปูตินยังสร้างความวิตกกังวลให้กับสหรัฐฯ ซึ่งกำลังหาทางกีดกันปูตินไม่ให้เป็นที่ยอมรับอันเป็นผลพวงจากสงครามในยูเครน อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐฯ ก็ตระหนักดีว่า สหรัฐฯ ยังจำเป็นต้องให้อินเดียเข้ามาช่วยคานอิทธิพลของจีนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
หากปูตินเดินทางไปอินเดียจริง จะถือเป็นสัญญาณที่ชี้ว่า เขามีความมั่นใจมากขึ้นในการเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับเขาในเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ในข้อหาอาชญากรรมสงครามในยูเครน
ที่มา: บลูมเบิร์ก