ภาคธุรกิจสหรัฐฯ ให้คำมั่นลงทุนกว่า 1 ล้านล้านดอลล์ในกลุ่มชิป-พลังงานสะอาด

ภาคธุรกิจสหรัฐฯ ให้คำมั่นลงทุนกว่า 1 ล้านล้านดอลล์ในกลุ่มชิป-พลังงานสะอาด

ภาคธุรกิจสหรัฐฯ ให้คำมั่นลงทุนกว่า 1 ล้านล้านดอลล์ในกลุ่มชิป-พลังงานสะอาด รับอานิสงส์หนุนลงทุนในประเทศ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ทำเนียบขาวเผยบริษัทต่าง ๆ ได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เช่น เซมิคอนดักเตอร์และพลังงานสะอาด ในช่วงรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยอ้างถึงการผ่านกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า กฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Law) กฎหมายชิปและวิทยาศาสตร์ (CHIPS and Science Act) รวมถึงกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) จะช่วยผลักดันวาระโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่และสร้างงานเพิ่มทั่วประเทศ

ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่า “เราได้ผ่านกฎหมาย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ สร้างเศรษฐกิจในด้านพลังงานสะอาด และนำภาคการผลิตกลับคืนสู่สหรัฐฯ ภายหลังบริษัทต่างๆ ย้ายฐานการผลิตออกไปยังประเทศอื่นๆ เป็นเวลานานหลายทศวรรษ” พร้อมเสริมว่า“การลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเหล่านี้ จะช่วยทำให้แน่ใจว่าอนาคตจะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ผ่านแรงงานชาวอเมริกัน และเป็นการสร้างงานสร้างโอกาสให้กับชุมชน ที่มักถูกมองข้าม”

เงินอุดหนุนที่มอบให้ภายใต้กฎหมายเหล่านี้ ได้จูงใจให้บรรดาบริษัทผู้ผลิตชิปและบริษัทอื่นๆ จำนวนมาก สร้างหรือขยายโรงงานการผลิตในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าว ยังไม่เพียงพอสำหรับสมาชิกพรรคเดโมแครตของไบเดน ที่สูญเสียที่นั่งในทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยสมาชิกพรรคเดโมแครตบางคน กล่าวตำหนิถึงตำแหน่งที่นั่งในสภาที่สูญเสียให้กับพรรครีพับลิกัน เนื่องมาจากความกังวลด้านเศรษฐกิจและการขาดความเชื่อมโยงกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แม้จะมีนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นคนงานและชนชั้นกลาง เช่น ความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาการขึ้นราคาสินค้าและการสนับสนุนสหภาพแรงงานก็ตาม

ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ใช้ประโยชน์จากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าราคาถูก โดยให้คำมั่นว่าจะจัดเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่ 20-60% และจะดำเนินการเนรเทศผู้อพยพจำนวนมากออกจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะภาคอาหารและเกษตรกรรม

ก่อนหน้านี้ ผลการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส ระบุว่า ชาวอเมริกันมองว่าเงินเฟ้อเป็นปัญหาสำคัญ และต้องการให้ทรัมป์จัดการกับปัญหาราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นภายใน 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยที่ 2

ทั้งนี้ บรรดาบริษัทต่างๆ ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลไบเดน ต่างแสดงความกังวลว่าทรัมป์อาจตัดเงินช่วยเหลือดังกล่าว เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค.

ที่มา: