กรุ๊ปเอ็มเผยรายได้จากโฆษณาทั่วโลกในปีนี้จ่อพุ่งทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังเติบโตแรง 9.5% นำโดยโฆษณาบนแพลตฟอร์มเทคโนโลยี ‘กูเกิล-เฟซบุ๊ก’ คาดปีหน้าโตต่อ 7.7%

บริษัท กรุ๊ปเอ็ม (Group M) ซึ่งเป็นเอเจนซี่ซื้อสื่อโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเครือของ WPP คาดการณ์ว่า รายได้จากการโฆษณาทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 9.5% ในปี 2024 และจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และจะเติบโต 7.7% ในปีหน้า 2568

การเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้มาจากการขับเคลื่อนหลักของ “แพลตฟอร์มดิจิทัล” ซึ่งท้าทายการคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมจะชะลอตัวลง โดยกรุ๊ปเอ็มระบุในรายงานการคาดการณ์สิ้นปี 2024 ว่า รายได้จากการโฆษณาจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปีนี้ และมีแนวโน้มจะรักษาอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นไปจนถึงปี 2029 ซึ่งมากกว่าที่เคยประเมินไว้เมื่อปีก่อน

รายงานคาดการณ์ว่า บริษัทยักษ์ใหญ่นำโดย กูเกิล (Google) เมตา (Meta) ไบต์แดนซ์ (ByteDance) อะเมซอน (Amazon) และอาลีบาบา (Alibaba) จะครองส่วนแบ่งรายได้มากกว่าครึ่งจากรายได้ของโฆษณาทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะมาจากผู้ลงโฆษณาขนาดกลางและขนาดย่อมที่ลงผ่านแพลตฟอร์ม หรือจากบริษัทรายใหญ่ที่ซื้อโฆษณาโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้รวมงบโฆษณาการเมืองในสหรัฐฯ เนื่องจากอาจทำให้ข้อมูลเบี่ยงเบนไปมาก โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า งบโฆษณาการเมืองในสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ สูงกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 ถึง 30%

สำหรับโฆษณาดิจิทัล ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด คาดว่าจะเติบโต 10.0% ในปี 2025 โดยจะคิดเป็น 72.9% ของโฆษณาทั้งหมด และจะยังคงทำผลงานได้ดีกว่าสื่ออื่นๆ โดยกรุ๊ปเอ็มคาดว่าสัดส่วนโฆษณาดิจิทัลจะขยายตัวเป็น 76.8% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2029

ด้านรายได้โฆษณาทางทีวีทั่วโลกจะเติบโตเพียง 1.9% เป็น 1.691 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดยโฆษณาทางทีวีแบบดั้งเดิม (linear TV) คิดเป็น 72.6% ของทั้งหมดในกลุ่มนี้

ขณะที่ สื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) จะเติบโต 7.1% ในปี 2025 แซงหน้าสื่อโฆษณาทางเสียง ซึ่งคาดว่าจะทรงตัว และโฆษณาสิ่งพิมพ์ซึ่งคาดว่าจะลดลง 3%

ที่มา: รอยเตอร์