*** ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่า ขัดขวางข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการ U.S. Steel มูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐของบริษัท Nippon Steel ผู้ผลิตเหล็กสัญชาติญี่ปุ่นโดยมิชอบ ผ่านกระบวนการตรวจสอบความมั่นคงแห่งชาติที่ไม่เป็นธรรม ตามที่บริษัททั้ง 2 ระบุในการยื่นฟ้องเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยบริษัททั้งสองต้องการให้ศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลาง ยกเลิกคำตัดสินของประธานาธิบดีไบเดนที่ยับยั้งข้อตกลงดังกล่าว เพื่อให้มีโอกาสอีกครั้งในการขออนุมัติผ่านกระบวนการตรวจสอบความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหม่ที่ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง
*** กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้เพิ่มรายชื่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน รวมถึง Tencent Holdings ผู้นำด้านเกมและโซเชียลมีเดีย และ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ เข้าไปในรายชื่อบริษัทที่ระบุว่า ทำงานร่วมกับกองทัพจีน นอกจากนี้ ในรายชื่อดังกล่าว ยังรวมถึงบริษัทผลิตชิป Changxin Memory Technologies, Quectel Wireless และ Autel Robotics ผู้ผลิตโดรนอีกด้วย
*** ไมเคิล บาร์ รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้กำกับดูแลก่อนกำหนดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นับเป็นการสร้างบททดสอบในช่วงเริ่มต้น ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพยายามกำหนดทิศทางของเฟดอย่างไร ในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 2 โดยบาร์ระบุว่า เขาวางแผนที่จะออกจากตำแหน่งผู้นำในคณะกรรมการผู้ว่าการของเฟด ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ แต่จะยังคงดำรงตำแหน่งในฐานะกรรมการ ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่งถึงเดือนม.ค. 2032
*** นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปฏิเสธรายงานในหนังสือพิมพ์ ที่กล่าวว่า ทีมงานของเขา กำลังพิจารณาแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้า ที่จะครอบคลุมเฉพาะสินค้านำเข้าที่สำคัญ ซึ่งทำให้ผู้นำธุรกิจเกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ในอนาคต โดยทรัมป์ระบุผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social หลังจากที่หนังสือพิมพ์ Washington Post รายงานว่า ทีมงานของทรัมป์กำลังพิจารณาแนวทางการเก็บภาษีที่ผ่อนปรน โดยมุ่งเน้นเฉพาะในบางภาคส่วนที่สำคัญ
*** นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรี แคนาดา ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม (Liberal Party) เมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ม.ค.) โดยจะยังคงอยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป จนกว่าจะเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยนายทรูโดยังระบุว่า กระบวนการต่างๆ ในรัฐสภาจะถูกระงับไปชั่วคราว จนกว่าจะถึงวันที่ 24 มี.ค. โดยในระหว่างนี้ จะมีการเลือกผู้นำพรรคเสรีนิยมคนใหม่
*** การเจรจาสัญญาจ้างงาน ซึ่งครอบคลุมแรงงานท่าเรือจำนวน 45,000 คนในชายฝั่งตะวันออกและอ่าวของสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันอังคารนี้ ท่ามกลางข้อพิพาทด้านแรงงาน ที่มีผลต่อการกำหนดความเร็วของการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในท่าเรือตั้งแต่รัฐเมนจนถึงรัฐเท็กซัส โดยสมาคมแรงงานท่าเรือนานาชาติ (International Longshoremen’s Association) ต้องการยกเลิกเงื่อนไขในสัญญาแรงงานก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ โดยเฉพาะการใช้เครนกึ่งอัตโนมัติที่ใช้ในการจัดเรียงตู้คอนเทนเนอร์บนท่าเรือ โดยให้เหตุผลว่าระบบดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อการจ้างงาน
*** Meta Platforms เปิดเผยว่า บริษัทได้เลือกกรรมการใหม่ 3 คน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารของบริษัท ซึ่งรวมถึง Dana White ซีอีโอของ Ultimate Fighting Championship (UFC) และเป็นเพื่อนสนิทของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้เลือก Charlie Songhurst นักลงทุนและอดีตผู้บริหารของ Microsoft รวมถึง John Elkann ซีอีโอของ Exor บริษัทโฮลดิ้งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูล Agnelli แห่งอิตาลี ซึ่งลงทุนในธุรกิจยุโรปหลายอย่าง เช่น Ferrari และ Christian Louboutin
*** Samsung Electronics ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก เตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ในวันพุธนี้ โดยคาดว่า การเติบโตของกำไรยังคงชะลอตัว เนื่องจากประสบปัญหาในการตอบสนองต่อความต้องการชิป AI ที่แข็งแกร่งของ Nvidia โดย Samsung ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและโทรทัศน์รายใหญ่ที่สุดของโลก ประมาณการว่ากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเป็น 8.2 ล้านล้านวอน (5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากฐานเปรียบเทียบต่ำซึ่งอยู่ในระดับ 2.8 ล้านล้านวอนในปีที่แล้ว แต่ลดลงจากระดับ 9.18 ล้านล้านวอนในไตรมาส 3 ปี 2024
ที่มา: สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย