ตลาดหุ้นโลกในเดือนมกราคมปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราเห็นถึงความผันผวนของตลาดระหว่างเดือน จากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาผสมผสาน การดำเนินนโยบายต่างๆ ในยุค Trump 2.0 รวมถึงความสำเร็จของโมเดล AI ในจีน โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือน ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่อการลดดอกเบี้ยต่อจากนี้ว่า อาจจะมีความล่าช้าและน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ตลาดได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งระหว่างเดือน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาชะลอตัวลง รวมถึงการตอบรับเชิงบวกต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ ของทรัมป์หลังจากการได้รับตำแหน่ง โดยนโยบายส่วนใหญ่มุ่งเน้นถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น นโยบายทางเศรษฐกิจ นโยบายการย้ายถิ่นฐาน นโยบายทางด้านพลังงาน รวมถึงการยกเลิกหลายคำสั่งจากรัฐบาลในชุดก่อน อย่างไรก็ตาม นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้ากับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศต่างๆ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอยู่มาก เริ่มสร้างความผันผวนให้กับตลาดโลกมากขึ้น ทำให้เรามองว่าตลาดหุ้นโลกในระยะต่อจากนี้จะเผชิญกับความผันผวนมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา
สำหรับตลาดหุ้นไทยในเดือนมกราคมปรับตัวลดลงสวนทางกับตลาดโลก โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากทั้งปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ อย่างแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed และปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายการขึ้นภาษีของทรัมป์ รวมทั้ง แรงกดดันที่มีต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากโมเดล AI DeepSeek ขณะที่ ด้านปัจจัยภายใน ตลาดยังถูกกดดันจากหลายปัจจัย เช่น ความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการขยายตัวของ GDP ในปีนี้มีโอกาสจะต่ำกว่าที่เคยมีการคาดการณ์กันไว้ การปรับลดประมาณการผลประกอบการของตลาด หรือ เหตุการณ์การลักพาตัวนักแสดงชาวจีนที่กระทบต่อความมั่นใจในการท่องเที่ยวของชาวจีน ซึ่งเป็นผลให้เกิดแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในกลุ่ม แม้ว่าจะได้ผลบวกบางส่วนจากราคาหุ้นกลุ่มธนาคารที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากกำไรในไตรมาส 4/2024 ที่ประกาศออกมาทำได้ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตามมุมมองตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้แม้จะมี Valuation ที่ถูก แต่ยังคงขาดแรงขับเคลื่อนในระยะสั้น ดังนั้นเรายังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้
Fund Comment
Fund Comment มกราคม 2025: ภาพรวมตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นโลกในเดือนมกราคมปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราเห็นถึงความผันผวนของตลาดระหว่างเดือน จากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาผสมผสาน การดำเนินนโยบายต่างๆ ในยุค Trump 2.0 รวมถึงความสำเร็จของโมเดล AI ในจีน โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือน ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่อการลดดอกเบี้ยต่อจากนี้ว่า อาจจะมีความล่าช้าและน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ตลาดได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งระหว่างเดือน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาชะลอตัวลง รวมถึงการตอบรับเชิงบวกต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ ของทรัมป์หลังจากการได้รับตำแหน่ง โดยนโยบายส่วนใหญ่มุ่งเน้นถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น นโยบายทางเศรษฐกิจ นโยบายการย้ายถิ่นฐาน นโยบายทางด้านพลังงาน รวมถึงการยกเลิกหลายคำสั่งจากรัฐบาลในชุดก่อน อย่างไรก็ตาม นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้ากับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศต่างๆ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอยู่มาก เริ่มสร้างความผันผวนให้กับตลาดโลกมากขึ้น ทำให้เรามองว่าตลาดหุ้นโลกในระยะต่อจากนี้จะเผชิญกับความผันผวนมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา
สำหรับตลาดหุ้นไทยในเดือนมกราคมปรับตัวลดลงสวนทางกับตลาดโลก โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากทั้งปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ อย่างแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed และปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายการขึ้นภาษีของทรัมป์ รวมทั้ง แรงกดดันที่มีต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากโมเดล AI DeepSeek ขณะที่ ด้านปัจจัยภายใน ตลาดยังถูกกดดันจากหลายปัจจัย เช่น ความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการขยายตัวของ GDP ในปีนี้มีโอกาสจะต่ำกว่าที่เคยมีการคาดการณ์กันไว้ การปรับลดประมาณการผลประกอบการของตลาด หรือ เหตุการณ์การลักพาตัวนักแสดงชาวจีนที่กระทบต่อความมั่นใจในการท่องเที่ยวของชาวจีน ซึ่งเป็นผลให้เกิดแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในกลุ่ม แม้ว่าจะได้ผลบวกบางส่วนจากราคาหุ้นกลุ่มธนาคารที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากกำไรในไตรมาส 4/2024 ที่ประกาศออกมาทำได้ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตามมุมมองตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้แม้จะมี Valuation ที่ถูก แต่ยังคงขาดแรงขับเคลื่อนในระยะสั้น ดังนั้นเรายังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้