สื่อต่างประเทศ รายงานว่า Honda และ Nissan สองค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศยุติการเจรจาจัดตั้งกลุ่มบริษัทยานยนต์ มูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างเป็นทางการในวันนี้ (13 ก.พ.) หลังมีกระแสข่าวการควบรวมกิจการของทั้งสองค่ายตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม Nissan และ Honda จะยังคงร่วมมือกันต่อไปในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า (EV), แบตเตอรี่, ซอฟต์แวร์ และระบบขับขี่อัตโนมัติ ร่วมกับ Mitsubishi Motors ซึ่งเป็นพันธมิตรรายย่อยของ Nissan
โดยก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า หากการควบรวมกิจการครั้งนี้สำเร็จจะทำให้กลุ่มบริษัทยานยนต์ที่จัดตั้งใหม่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เมื่อวัดจากยอดขาย รองจาก Toyota, Volkswagen และ Hyundai
ด้านรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว ระบุว่า การเจรจาระหว่าง Nissan และ Honda มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอของ Honda ที่ให้ต้องการให้ Nissan มาเป็นบริษัทลูก ซึ่งถูกคัดค้านอย่างหนักจาก Nissan
คาดว่า การยุติแผนการควบรวมกิจการอาจส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อทั้งสามบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Nissan ที่กำลังประสบปัญหาด้านธุรกิจ อาจต้องมองหาหนทางอื่นเพื่อพยุงสถานะทางการเงินที่อ่อนแอ ส่วน Honda ในภาพรวมนั้น ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับคงที่ หลังเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่คาดไว้
Honda เผยว่า กำไรจากการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2024 อยู่ที่ 397,000 ล้านเยน (2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 407,000 ล้านเยนเล็กน้อย หลังยอดขายในฝั่งสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัว ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายที่ซบเซาในตลาดญี่ปุ่น จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดขายสุทธิ อยู่ที่ 5.5 ล้านล้านเยน สูงกว่าตัวเลข 5.4 ล้านล้านเยนที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดย Honda คาดว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ จะอยู่ที่ 1.42 ล้านล้านเยน
ปัจจุบัน มูลค่าตลาดของ Nissan เล็กกว่า Honda เกือบ 5 เท่า โดยมูลค่าตลาดของ Honda อยู่ที่ประมาณ 7.5 ล้านล้านเยน (48,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเมื่อย้อนไป 10 ปีที่แล้ว ทั้งสองบริษัทมีมูลค่าใกล้เคียงกัน อยู่ที่ประมาณ 4.6 ล้านล้านเยน
ด้านแหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Nissan เปิดกว้างสำหรับการทำงานร่วมกับพันธมิตรรายใหม่ โดยมี Foxconn ผู้ผลิตและประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกจากไต้หวัน เป็นหนึ่งในตัวเลือก ขณะที่ Young Liu ประธาน Foxconn กล่าวว่า อาจพิจารณาเข้าถือหุ้นใน Nissan แต่เป้าหมายหลัก ๆ จะเน้นไปที่ความร่วมมือมากกว่า
ที่มา: บลูมเบิร์ก และ รอยเตอร์