กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า พร้อมเตือนแนวโน้มอาจแย่ลงอีก หลังมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่นำไปสู่สงครามการค้าทั่วโลก ขณะเดียวกัน ยังหั่น GDP ไทยในปี 2025 ลงเหลือ 1.8% จากก่อนหน้านี้ที่ 2.9% ส่วนในปี 2026 คาดการณ์ว่าจะชะลอตัวอยู่ที่ 1.6%
IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลก ปีนี้เหลือ 2.8% ในรายงาน World Economic Outlook ต่ำกว่าการคาดการณ์ 3.3% ในเดือนม.ค. โดยจะเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุด นับตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 รวมทั้งเป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ปี 2009 พร้อมกันนี้ ยังปรับลดประมาณการสำหรับปีหน้าลงเหลือ 3% ซึ่งลดลง 0.3 จุด จากคาดการณ์เดิม
ในกรณีของสหรัฐฯ IMF ระบุว่า สงครามการค้าจะก่อให้เกิด “ความเสี่ยงด้านอุปทาน” ที่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นและกดดันต่อประสิทธิภาพการผลิต ขณะที่ ประเทศคู่ค้าจะเผชิญกับ “ความเสี่ยงด้านอุปสงค์” ที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและราคา นอกจากนี้ IMF ยังกล่าวว่า ระดับภาษีเฉลี่ยของสหรัฐฯ ขณะนี้ พุ่งขึ้นแตะระดับที่ไม่เคยเห็นในรอบ 100 ปี แม้ว่าสหรัฐฯ อาจหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ในปีนี้ แต่ IMF ก็ได้ปรับเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้น จากระดับ 27% ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เป็น 40%
ทั้งสหรัฐฯ และจีน เป็นประเทศที่ IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตมากที่สุด โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่า จะเติบโต 1.8% ในปีนี้ และ 1.7% ในปี 2026 ลดลงจากคาดการณ์เดิม 0.9 และ 0.4 จุด ขณะเดียวกัน IMF ยังปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในปี 2025 ขึ้นประมาณ 1 จุด มาอยู่ที่ 3%
สำหรับจีน IMF คาดว่า จะเติบโต 4% ในปีนี้และปีหน้า ลดลง 0.6 และ 0.5 จุดตามลำดับ โดยชี้ว่า นโยบายการคลังแบบขยายตัวของจีนจะช่วยลดผลกระทบจากภาษีบางส่วนได้ อย่างไรก็ตาม IMF ระบุว่า หากความตึงเครียดทางการค้าผ่อนคลาย และสามารถแก้ไขข้อร้องเรียนที่สะสมมายาวนานเกี่ยวกับอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีและมาตรการบิดเบือนการค้าได้ เศรษฐกิจโลกก็จะฟื้นตัวได้ในทันที
ทั้งนี้ IMF เตือนว่า ความเสี่ยงระยะสั้น ยังคงเป็นการทวีความรุนแรงของสงครามการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยปรับลดคาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกในปีนี้ลง 1.5 จุด และคาดว่า จะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยในปีหน้า
ขณะเดียวกัน IMF ยังปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปสำหรับชาติเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และแคนาดา เป็น 2.5% ในปี 2025 เพิ่มขึ้น 0.4 จุด จากการคาดการณ์ในเดือนม.ค.